สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A, LB176A และ LB21DA (รุ่นอายุ 1.8 ปี, 3.9 ปี และ 8.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 12,123 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของธนาคาร เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK144A) มูลค่า 264.7 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT13OA) มูลค่า 200.8 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL154A) มูลค่า 120.5 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 586.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 21,832 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 11,747 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,031 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.54% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.47% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.04%
Yield Curve ปรับลดลงในทุกช่วงอายุตราสาร โดยเฉพาะในตราสารรุ่นอายุ 5 ปีขึ้นไป ปรับลดลงประมาณ 3-7 bps. จากแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยนักลงทุนจับตาผลการประชุม กนง.วันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่า กนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,031 ล้านบาท