(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน ยังไม่มีปัจจัยใหม่ชี้นำ รอผลกนง.-จับตา Fund Flow

นอกจากนี้การเมืองในประเทศยังต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะโครงการลงทุนของภาครัฐต่างๆ ที่มีแนวโน้มล่าช้าออกไป และต้องจับตาทิศทางแรงขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศว่าจะมีแรงขายออกมามากหรือน้อยแค่ไหน ขณะที่แรงขายของต่างชาติในช่วงนี้ยังเบาบาง

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าส่วนใหญ่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกและแดนลบสลับกัน

พร้อมให้แนวต้าน 1,410-1,412 จุด แนวรับ 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(9 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,300.34 จุด เพิ่มขึ้น 75.65 จุด(+0.50%) ดัชนีเอส

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 8.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 158.72 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.78 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 1.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.18 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.40 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(9 ก.ค.)ที่ 1,398.69 จุด ลดลง 5.95 จุด(-0.42%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 861.82 ล้านบาท เมื่อ 9 ก.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำวานนี้(9 ก.ค.)ที่ 103.53 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.39 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(9 ก.ค.)ที่ 8.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.22/24 แนวโน้มแข็งค่า ลุ้นผลประชุมกนง.บ่ายนี้
• นายกฯสั่งจัดเวิร์คชอป 12 ก.ค. ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเพิ่ม หลังสภาพัฒน์รายงานแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง ชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับลดทุกรายการ ยกเว้นท่องเที่ยว ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นเต็มที่ ด้านเอกชนจี้รัฐเร่งเบิกจ่ายชดเชยผลกระทบภายนอก
• ธปท.เผยหนี้ครัวเรือนยังพุ่งไม่หยุดไตรมาสแรกปี 2556 โต 16.24% ดันหนี้คงค้างทั้งระบบเฉียด 9 ล้านล้านบาท ชี้กลุ่มโบรกเกอร์โตมากสุด 67% ตามด้วยกลุ่มบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล 33.2% ด้านแบงก์พาณิชย์คุมเข้มบัตรเครดิต ยูโอบีระบุยอดผิดชำระเพิ่ม 0.2% ขณะ"บัณฑิต"ชี้ดอกเบี้ยนโยบายเหมาะสม
• นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือน พ.ค. และแนวโน้มปี 2556 ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทราบว่าเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ค. แสดงให้เห็นถึงการลดลงของกิจกรรมเศรษฐกิจ
• นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่แนวโน้มสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่คาดว่าสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์คงไม่ลดลงมากถึงขั้นติดลบเหมือนปี 2551
• นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala โดยดึงประเด็นการตีความรัฐธรรมนูญในเรื่องพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ว่า เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลจะได้รับจากการกู้ยืมนั้น ต้องถือเป็นเงินของแผ่นดินตามมาตรา 169 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 สถานเดียวเท่านั้น
• นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองคำพิพากษาศาลปกครองว่าด้วยโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา รับทราบตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)ได้แจ้งว่า กบอ.จะเดินหน้ารับฟังความคิดเห็นประชาชนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ตามมาตรา 57 วรรคสอง ระหว่างวันที่ 1 ส.ค.-13 ต.ค.นี้
• "สมาคมตลาดตราสารหนี้"ชี้ตลาดแรกยอดตราสารหนี้คงค้างเพิ่ม 3.4% แตะ 8.88 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย ต่อวันในตลาดรองเพิ่มขึ้น 20% ประเมินครึ่งปีหลัง เอกชนออกหุ้นกู้ต่อเนื่อง ประมาณ 2 แสนล้าน หวังล็อกต้นทุนการเงิน รับดอกเบี้ยขาขึ้น เชื่อตลาดตราสาร หนี้ไทยยังน่าลงทุน คาดครึ่งหลังเงินไหล ออกต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัว มั่นใจทั้งปีเงินต่างชาติยังไหลเข้าสุทธิ
• นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 9 ก.ค.มีมติอนุมัติให้โอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดเชยความเสียหายของกองทุนฟื้นฟูฯ ในปี 2556 เพิ่มเติมจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาทเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF1 และ FIDF3

*หุ้นเด่นวันนี้

• AOT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับเป้าขึ้นเป็น 187 จาก 167 บาท รับการปรับกำไรปกติปีนี้(ต.ค.12-ก.ย.13) ขึ้น 5% เป็น 9.8 พันล้านบาท +41% Y-Y จากจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มดีกว่าที่เคยคาดเดิม และผลการดำเนินงานในระยะยาวยังเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจากแผนขยายความสามารถรองรับผู้โดยสารในอนาคตทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสนามบินภูเก็ต ที่มีปัญหาแออัด รวมทั้งมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวของไทย การขยายตัวของของสายการบินต้นทุนต่ำ และการเปิด AEC
• PTTEP(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 195 บาท คาดกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนภาษี +4% Q-Q, +8% Y-Y เป็น 2.86 หมื่นล้านบาท หากเป็นไปตามคาด กำไรใน 1H13 จะคิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 6.78 หมื่นล้านบาท +18.3% Y-Y ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้เพราะแนวโน้มกำไรใน 2H13 จะดีขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นในระยะนี้จากปัญหาความไม่สงบในอิยิปต์ ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE เพียง 8 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่มพลังงานในประเทศและในภูมิภาคที่เฉลี่ย 9-9.5 เท่า
• SAMART(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้าใหม่ 24.80 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงเกินไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากแนวโน้มกำไรสุทธิใน 2Q56 ยังคงไม่น่ากังวล โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% YoY ตามผลการดำเนินงานของ SIM ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดเมื่อเทียบ YoY ซึ่งจะชดเชยผลประกอบการของ SAMTEL ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิลดลง 25% YoY และ 34% QoQ ได้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2556 ไว้ที่ 1,319 ล้านบาท 23% YoY
• THCOM (เกียรนาคิน)"ซื้อ"เป้า 33.80 บาท วานนี้ราคาหุ้นปรับลงแรงกว่า 9% มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากประเด็นที่ในวันนี้คณะกรรมการ กทค. จะมีวาระพิจารณาเรื่องสถานะดาวเทียมไทยคม 4 (IPSTAR) เป็นดาวเทียมในสัมปทานหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นน่ากังวล เนื่องจากกระทรวง ICT ซึ่งเป็นคู่สัญญาสัมปทานไม่เคยออกมาระบุชัดเจนว่า IPSTAR ไม่ใช่ดาวเทียมนอกสัมปทาน ขณะที่ประเด็นโครงการ IPSTAR ในจีน ที่ตลาดกังวลว่าสัญญาอาจเป็นโมฆะ ประเมินว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อย เนื่องจากพันธมิตรในจีน (ไชน่า โมบาย) มีการใช้งานช่องสัญญาณ IPSTAR รองรับการให้บริการโทรศัพท์มือถือแล้ว
• CPF(เคทีบี)"ซื้อเก็งกำไร"ยังคงเห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกต่อภาพผลการดาเนินงานในช่วง 2H56 หลังจากคาดการณ์กำไรสุทธิงวด 1H56 ตกต่ำ ซึ่งราคาหุ้นได้ตอบรับล่วงหน้าไปแล้ว พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 40.40 บาท