สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A, LB21DA และ LB176A (รุ่นอายุ 1.8 ปี, 8.4 ปี และ 3.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 13,756 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL14OA) มูลค่า 212.6 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY142B) มูลค่า 169.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF14NB) มูลค่า 164.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 546.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.2% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,456 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,483 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -198 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.53% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.47% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ปรับลดลงเล็กน้อยในทุกช่วงอายุตราสาร โดยปรับลดลงประมาณ 1-2 bps. ภายหลังผลการประชุม กนง. ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ด้านนักลงทุนจับตาผลการประชุม FOMC คืนนี้ ว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ หรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 198 ล้านบาท