(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งขึ้นไปต่อ-ลุ้นบาทแข็งหนุนการลงทุนในตลาดหุ้น

นายณาศิส ประเสริฐกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่ายังแกว่งตัวขึ้นได้ต่อจากเมื่อวานนี้ แต่คงลดความร้อนแรงลงหลังจากบวกไปถึงกว่า 4% เมื่อวานนี้ ปัจจัยที่หนุนตลาดมาจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ยืนยันว่านโยบายผ่อนคลายทางการเงินด้วยมาตรการ QE ยังมีความจำเป็น

ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะเป็นทิศทางของค่าเงินบาท หากมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นก็จะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น

"ค่าเงินบาทมีผลต่อการเคลื่อนย้ายกระแสเงินทุน เนื่องจากตอนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯลดลงต่อเนื่องและความเชื่อมั่นในเรื่องมาตรการ QE ทำให้ Fund Flow ไหลไปสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงทำให้นักลงทุนหันไปถือเงินสกุลดอลลาร์มากขึ้น แต่ถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนที่ขายเงินบาทเปลี่ยนเป็นดอลลาร์จะกลับมาถือค่าเงินบาทอีกครั้งและมากขึ้น เรียกได้ว่ายิ่งบาทแข็งค่าก็ยิ่งดี และมีส่วนในการหนุนตลาดหุ้นไทย"นายณาศิส กล่าว

ขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าเป็นบวกรับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐ พร้อมให้แนวต้าน 1,465 จุด แนวรับ 1,445 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(11 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,460.92 จุด เพิ่มขึ้น 169.26 จุด(+1.11%) ดัชนีเอส

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 2.59 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 84.66 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.49 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.16 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.85 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 12.80 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(11 ก.ค.)ที่ 1,447.04 จุด เพิ่มขึ้น 58.63 จุด(+4.22%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,438.72 ล้านบาท เมื่อ 11 ก.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำวานนี้(10 ก.ค.)ที่ 104.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.61 ดอลลาร์หรือ 1.51%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(11 ก.ค.)ที่ 9.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.06/08 หลังปธ.เฟดยืนยัน QE ยังจำเป็นต่อศก.สหรัฐ
• ธปท.เกาะติดทุนเคลื่อนย้ายหลัง"เบอร์นันเก้"ส่งสัญญาณเดินหน้าคิวอี มั่นใจรับมือได้ นักวิเคาะห์เตือนตลาดเงิน-ทุนผันผวน ประเมินยาก เหตุขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจในระยะสั้น ขณะค่าเงินหุ้น-ทอง ปรับขึ้นถ้วนหน้า
• "กิตติรัตน์"ยันไม่ออกมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ใช้งบประมาณสูงได้ผลระยะสั้น เน้นสร้างสมดุลระบบเศรษฐกิจ ผ่านการเร่งรัดการเบิกจ่าย การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน เตรียมพร้อมรับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว พาณิชย์เสนอมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น
• น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะประชุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลในวันที่ 12 ก.ค.เพื่อหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากในประเทศทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัวลงเกินคาด จนรัฐบาลต้องปรับตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ต่ำกว่า 5%
• "รสนา โตสิตระกูล" สว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา แถลงว่าที่ประชุม กมธ.มีมติขอส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพิกถอนโครงการบริหารจัดการน้ำ ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศพ.ศ. 2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท
• เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เปิดเผยหลังหารือกับนายชิเกะคะ สุซะโต เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และเอกชนญี่ปุ่น โดยระบุว่าญี่ปุ่นยังไม่ตอบตกลงว่าจะเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวลล็อปเมนท์ เพื่อพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
• รัฐบาลเตรียมเข็นมาตรการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจใช้ภาษีเป็นตัวหนุนการส่งออกภาคบริการท่องเที่ยว"กิตติรัตน์" ลั่นต่อไปไม่เน้นอัดฉีดเงินหวังผลกระตุ้นช่วงสั้นเหมือนที่ผ่านมาอีก พร้อมมั่นใจเศรษฐกิจโตได้ที่ระดับ 4.5% ด้านกระทรวงพาณิชย์เล็งชงเพิ่มความถี่จัดธงฟ้า พร้อมแนะกระตุ้นใช้จ่ายในประเทศ ธปท.ยอมรับเฟดกลับลำทำตลาดเงินตลาดทุนป่วน ยันเศรษฐกิจไทยไม่น่ากังวล หนี้ในระบบอยู่ในระดับปกติ
• ศูนย์ข้อมูลฯระบุครึ่งแรกของปี 56 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยทั้งห้องชุด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ราคาปรับเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า ชี้ปัจจัยหลักค่าแรงและต้นทุนวัสดุก่อสร้าง เผยเฉพาะห้องชุดในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นมากสุด 7.2% ระบุห้องชุดที่ทำราคาต่ำกว่า 5 หมื่นบาทต่อตร.ม.เพิ่มขึ้น 8.1% ส่วนดัชนีราคาทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้นมากกว่าบ้านเดี่ยว

*หุ้นเด่นวันนี้

• NMG-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป(NMG)เข้าเทรดวันแรก จำนวน 1,647,740,300 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับจากวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 20 มิถุนายน 2556)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 13 ธ.ค. 2556 และให้ใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 มิ.ย. 2561
• MILL-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.มิลล์คอน สตีล(MILL)เข้าเทรดวันแรก จำนวน 465,900,760 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 30 พ.ค. 56 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2556 และให้ใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 27 พ.ค. 2559
• VGI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 152 บาท คาดกำไร 1Q14(เม.ย.-มิ.ย.56)ทำสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ 276 ล้านบาท +23% Q-Q, +73% Y-Y จากการขยายตัวของสื่อรถไฟฟ้าและสื่อ Modern Trade และจากเริ่มทยอยขึ้นค่าโฆษณา แนวโน้ม 2H13 ยังสดใสจากพื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้นตามจำนวนตู้โดยสาร 35 ขบวน และจะมีรถไฟฟ้าใหม่อีก 5 ขบวน ยังคงประมาณการกำไรปีนี้โต 51% เป็น 1,373 ล้านบาท ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE 26.5 เท่า ต่ำกว่าในช่วงก่อนหน้านี้ที่ 30 กว่าเท่า
• KTB(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 24 บาท คาดกำไร 2Q56 ที่ 8,969 ล้านบาท โต 5%QoQ และ 21%YoY สินเชื่อโตประมาณ 2%QoQ NIM ทรงตัว และรายได้ค่าธรรมเนียมยังโตดี 15%YoY ค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจากไตรมาสก่อนที่จ่ายโบนัส ทำให้ Cost-to-income ลดลงเหลือ 42% จาก 46% ด้าน NPL คาดทรงตัวและ Provision ยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ปัจจัยผลักดันจากสินเชื่อภาครัฐอาจชะลอลงไป ขณะที่ KTB ยังมีความเสี่ยงที่จะต้องเพิ่ม Provision ซึ่งอาจทำให้กำไรสุทธิลดลง