(เพิ่มเติม) CIMBT คาดกำไร Q2/56 โต QoQ และ YoY ตามสินเชื่อ-รายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 15, 2013 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย(CIMBT) คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/56 จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของสินเชื่อ และ รายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัวราว 16-20% ทำให้ธนาคารเชื่อว่าทั้งปีนี้สินเชื่อจะขยายตัวตามเป้าหมาย 20-25% พร้อมทั้งตั้งเป้ารักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ไม่เกิน 3% หลังจากลดระดับมาอยู่ที่ 2.5% แล้วในขณะนี้

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIMBT เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรของธนาคารในไตรมาส 2/56 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/56 และดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสินเชื่อ และรายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโตเป็นอย่างดี โดยธนาคารจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/56 ในวันที่ 18 ก.ค.56

ธนาคารเชื่อว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 3-4 หมื่นล้านบาท หรือ 20-25 % จากปีก่อน ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการเติบโตแล้วกว่า 16-20% หรือที่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการเติบโตมากกว่าตลาดถึง 10% โดยมีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อรายใหญ่ 40% สินเชื่อ SME 30% และรายย่อย 30%

ขณะเดียวกันธนาคารฯยังอยู่ระหว่างการเจรจาการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ๆอีก 4-5 ราย เป็นอย่างน้อย มูลค่าประมาณ 5-6 พันล้านบาท ซึ่งหากคิดมูลค่าในการให้บริการทางด้านการเงินในทุกด้านแล่วจะมีมูลค่าสูงถึง 2-3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการขยายธุรกิจทั้งจากประเทศไทยไปยังอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย และความต้องการจากนักลงทุนใน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย มายังประเทศไทย

ด้าน NPL ของธนาคารฯปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% ซึ่งเป็นการปรับลดจากปีก่อนที่อยู่ในระดับมากกว่า 3 % อย่างไรก็ตามทางธนาคารจะมีการบริหารให้ NPL ทั้งปีนี้อยู่ที่ไม่เกิน 3%

นายสุภัค กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารได้มีความเข้มงวดมากขึ้นในการพิจารณาสินเชื่อ โดยเน้นความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น เช่น กลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน เนื่องจากธนาคารมีความกังวลว่าจะมีการขอสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันไปใช้ในการชำระหนี้เดิม แต่ปัจจุบันทางธนาคารเองยังไม่พบสัญญาณดังกล่าว

ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัย มองว่าควรมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันราคาปรับตัวสูงขึ้นมาใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม อีกทั้งปริมาณโครงการเพิ่มมากขึ้น แต่ความต้องการซื้อของประชาชนนั้นยังไม่ได้มากเท่ากับโครงการที่ออกมา ซึ่งสินเชื่อบ้านในช่วงที่ผ่ามาเติบโตอย่างรวดเร็วและสูงถึง 20-30% แต่ในส่วนนี้เป็น NPL เพียง 1% ถือว่าค่อนข้างต่ำ

"ธนาคารฯก็ได้มีการเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อบ้าน แต่อย่างไรก็ตามยังคงหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 ไว้ที่การให้ LTV ที่ 50-70 % ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้และคุณภาพลูกหนี้แต่ละราย"นายสุภัค กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ