นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับขึ้นต่อได้แต่ค่อนข้างจำกัด เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นจิตวิทยาการลงทุน แต่เรื่อง sentiment ที่เป็นบวกเชื่อว่ายังคงมีอยู่ จึงส่งผลให้ภาพรวมปรับขึ้นได้แต่จำกัดเพราะจะทำให้นักลงทุนบางส่วนที่รอปัจจัยกระตุ้นการลงทุน เมื่อดัชนีปรับขึ้นก็จะมี take profit ออกมาเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนีไปไม่ไกล
"ช่วงสั้นไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาในตลาดเพราะปัจจัยต่างประเทศดัชนีดาวโจนส์ช่วงสั้นมากบวกเล็กน้อย แต่ตัวหนุนที่ดีน่าจะมาจากราคาน้ำมันดิบที่น่าจะยังทรงตัวสูงในขณะนี้" นายปริญทร์ กล่าว
กลุ่มที่ให้น้ำหนักซื้อลงทุนส่วนหนึ่งในหุ้น big cap พลังงาน ปิโตรเคมี โรงกลั่น ถ้าเก็งกำไรระยะสั้น ธนาคารพาณิชย์จะประกาศงบฯไตรมาส 2 หุ้นที่จะมีผลประกอบการแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 2 เช่น MAJOR THCOM และหุ้นที่จะเทิร์นอะราวน์ในครึ่งหลัง เช่น ปิโตรเคมี โรงกลั่น ซึ่งไตรมาส 2 น่าจะแย่สุดของปีนี้ จะเห็นภาพเทิร์นอะราวน์ในไตรมาส 3-4
ทั้งนี้ ให้กรอบการลงทุนแคบลงแถว 1,450-1,460 จุด