(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขยับขึ้นในกรอบจำกัด ราคาน้ำมันขึ้นหนุนพลังงาน-เก็งงบฯQ2

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 16, 2013 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับขึ้นต่อได้แต่ค่อนข้างจำกัด เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นจิตวิทยาการลงทุน แต่เรื่อง sentiment ที่เป็นบวกเชื่อว่ายังคงมีอยู่ จึงส่งผลให้ภาพรวมปรับขึ้นได้แต่จำกัดเพราะจะทำให้นักลงทุนบางส่วนที่รอปัจจัยกระตุ้นการลงทุน เมื่อดัชนีปรับขึ้นก็จะมี take profit ออกมาเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนีไปไม่ไกล
"ช่วงสั้นไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาในตลาดเพราะปัจจัยต่างประเทศดัชนีดาวโจนส์ช่วงสั้นมากบวกเล็กน้อย แต่ตัวหนุนที่ดีน่าจะมาจากราคาน้ำมันดิบที่น่าจะยังทรงตัวสูงในขณะนี้" นายปริญทร์ กล่าว

กลุ่มที่ให้น้ำหนักซื้อลงทุนส่วนหนึ่งในหุ้น big cap พลังงาน ปิโตรเคมี โรงกลั่น ถ้าเก็งกำไรระยะสั้น ธนาคารพาณิชย์จะประกาศงบฯไตรมาส 2/56 และ หุ้นที่จะมีผลประกอบการแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 2/56 เช่น MAJOR THCOM รวมทั้ง หุ้นที่จะฟื้นตัวครึ่งปีหลัง เช่น ปิโตรเคมี โรงกลั่น ซึ่งไตรมาส 2/56 น่าจะแย่สุดของปีนี้ จะเห็นภาพเทิร์นอะราวน์ในไตรมาส 3-4/56

ทั้งนี้ ให้กรอบการลงทุนแคบลงแถว 1,450-1,460 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดวานนี้ (15 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,484.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.69 จุด(+0.13%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,682.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.31 จุด(+0.14%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,607.49 จุด เพิ่มขึ้น 7.41 จุด(+0.21%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 88.63 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 29.76 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 11.06 จุด,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.37 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.68 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.13 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 5.40 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้ (15 ก.ค.) 1,455.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด(+0.12%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 426.77 ล้านบาท วานนี้
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ (15 ก.ค.) ที่ 106.32 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 37 เซนจ์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้ (15 ก.ค.)ที่ 9.42 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.12/14 คาดแกว่งตัวกรอบแคบ ขาดปัจจัยใหม่หนุน
  • 'ประสาร'เตือนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ส่งผลเสียต่อการพัฒนาประเทศระยะยาว ระบุมาตรการของรัฐบาลเน้นเพิ่มรายได้-กระตุ้นรายจ่าย ส่งผลไม่ยั่งยืน-เสียโอกาส-ไม่จูงใจให้เอกชนพัฒนาตนเอง แนะรัฐเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-พัฒนาฝีมือแรงงาน
  • บอร์ด กสท.เคาะเกณฑ์ประมูลช่องข่าว'ลด'สัดส่วนผังรายการ 'ข่าว-สาระ' เหลือ 50% จากเดิม 75% ชี้บทเรียนไอทีวีเป็นเหตุต้องปรับเกณฑ์ใหม่ พร้อมเปิดทาง 'ช่องรายการ' เสนอผัง 'ข่าว-สาระ' เกิน 50-90% ลดค่าธรรมเนียม 15% เตรียมชงบอร์ดกสทช.วันพุธ 17 ก.ค.นี้ ด้าน'สุภิญญา'ค้านลดสัดส่วนช่องข่าว ขณะเอกชนคาดแข่งเดือดประมูลชิงช่องข่าว
  • เศรษฐกิจจีนชะลอตัวต่อเนื่อง จีดีพีไตรมาส 2 โต 7.5% ผลจากศักยภาพการผลิตลดลง ชาติตะวันตกยังไม่ฟื้นตัวและผู้นำใหม่เน้นปรับโครงสร้างเศรษฐกิจด้วยการลดพึ่งพาส่งออก-ลงทุน นักวิเคราะห์คาดรัฐบาลจะคอยประคองและสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจในช่วงปรับโครงสร้าง แต่จะไม่ออกมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่ ด้านตลาดขานรับ ระบุตัวเลขจีดีพีเป็นไปตามคาดหมาย
  • 'พาณิชย์'เคาะทีโออาร์ระบายข้าวรัฐล็อตแรกยุค 'นิวัฒน์ธำรง' รวม 3.5 แสนตัน ยื่นซอง 26 ก.ค. นี้ เปิดซองและเจรจาวันที่ 29 ก.ค. ลั่นไม่ได้ตามราคากลางพร้อมล้มประมูล 'ชูเกียรติ' เชื่อเอกชนรุมซื้อปลายข้าวหลังขาดแคลนหนัก ห่วงข้าวขาวราคาไม่เป็นไปตามตลาด ธ.ก.ส.ชงคลังอนุมัติเกษตรกรเข้าโครงการรับจำนำพ่วงทำประกันภัยพืชผลด้วย สื่อนอกตีข่าวลอบนำเข้าข้าวสวมสิทธิ์จำนำ 7.5 แสนตันข้าวสารต่อปี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTGC (เอเซียพลัส)"ซื้อ"Fair Value 78.1 บาท เชื่อแนวโน้มกำไรน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในงวด 2Q56 จากนี้ไปจะเห็นการทยอยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากทั้งธุรกิจโรงกลั่น และโอเลฟินส์
  • PS (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสม 32.50 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q56 โตสูงถึง 50-60% qoq และอย่างน้อยทรงตัว yoy ราว 1.1-1.2 พันล้านบาท จากยอดโอนบ้านแนวราบและคอนโดฯเพิ่มขึ้นมากใน 2Q56 และมี Downside Risk ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากประมาณการรายได้ปี 56 มี Backlog รองรับแล้วทั้งจำนวนที่ 3.5 หมื่นล้านบาท หรือ +30% yoy ขณะที่ยอด Presales ใน 1H56 อยู่ที่ 2.27 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 65% ของเป้าทั้งปี ดังนั้น คาดกำไรสุทธิปี 56 จะโต +28.8% yoy เป็น 5,016 ล้านบาท และต่อเนื่อง +11.3% เป็น 5,584 ล้านบาท ในปี 2557
  • SYMC (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"มูลค่าเหมาะสม 22.10 บาท เชื่อกำไรสุทธิครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรก หลังจากที่ลูกค้าใหม่ใช้งานโครงข่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะบริการ Private Network, IPLC และ Digital Broadcast ขณะที่คาด SYMC จะยังคงสามารถจ่ายเงินได้ในอัตราหุ้นละ 56 สตางค์ (yield 3.4%) โดยงวด 1H56 คาดเงินปันผลจ่ายหุ้นละ 13 สตางค์ ส่วนครึ่งปีหลังมีโอกาสจ่ายปันผลงวดทั้งเงินสดและหุ้นปันผลซึ่งเป็นบวกต่อการบริหารสภาพคล่องของบริษัท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ