บริษัทจะเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามแผน โดยมีกำหนดเทรดต้นเดือน ส.ค.นี้ แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนตามตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก ทั้งนี้ PACE มั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ประกอบกับความมั่นใจในการเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีจุดยืนที่ชัดเจน ทำให้ PACEเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีศักยภาพสำหรับนักลงทุน รวมทั้งความเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังแข็งแกร่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ยังคงมีแนวโน้มที่สามารถเติบโตได้
“ผมมั่นใจว่าหุ้น PACE จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในเซ็กเมนท์ไฮเอนด์มีผู้เล่นน้อยราย มีซัพพลายที่จำกัดและอยู่ในภาวะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และ PACE เป็นผู้นำในตลาดไฮเอนด์นี้อย่างชัดเจนจากผลงานที่ผ่านมา พร้อมด้วยทีมงานบริหารมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนานกว่า 25 ปี ทำให้โครงการที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการไฟคัส เลน ที่สุขุมวิท 44 และโครงการศาลาแดง เรสซิเดนเซส ในซอยศาลาแดง ที่มีมูลค่าโครงการรวม 910 ล้านบาทและ 2,341 ล้าน ตามลำดับ ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านยอดขายและคุณภาพการก่อสร้าง"นายสรพจน์ กล่าว
PACE มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 24,000 ล้านบาท เริ่มจากโครงการ ไฟคัส เลน และ ศาลาแดง เรสซิเดนเซส ที่ประสบความสำเร็จ และโครงการกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคือโครงการ “มหานคร" ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ โดยรวมเอาคอนโดมิเนียม โรงแรม และศูนย์การค้า ไว้ในที่เดียวกัน และมีกำหนดสร้างเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 4/58 ในส่วนของคอนโดมิเนียม 200 ห้อง ปัจจุบันบริษัทขายไปได้เกินกว่าร้อยละ 50 คิดเป็นยอดขายประมาณ 6,000 ล้านบาท
และล่าสุดในงานโรดโชว์ที่พักอาศัย แบรนด์ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตันในดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ บริษัทสามารถทำสถิติยอดขายได้กว่า 420 ล้านบาทสำหรับในด้านไฟแนนซิ่งของโครงการมหานคร ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารทิสโก้ได้อนุมัติวงเงินกู้ครบทั้งโครงการ และบริษัทได้เริ่มเบิกเงินกู้เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนภายในปี 2558
นายสรพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก ทางบริษัทมีแผนจะซื้อหุ้นในโครงการมหานครจากบริษัท อินดัสเทรียล บิลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(IBC)เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นจากเดิมคือ ร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 68 เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการโครงการมหานครมากขึ้น
ทั้งนี้ หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว PACE จะนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้เพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ของบริษัทและยังคงเน้นตลาดไฮเอนด์โดยเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพใจกลางเมืองทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่น โครงการบ้านพักตากอากาศ“มหาสมุทร"ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งยังมีความต้องการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์อย่างต่อเนื่อง และโครงการคอนโดมิเนียม พื้นที่ขาย 24,000 ตรม. บนถนนหลังสวน มูลค่ารวมของทั้งสองโครงการใหม่เท่ากับ 8,700 ล้านบาท
“ล่าสุด PACE ได้เปิดตัวโครงการมหาสมุทร บ้านพักตากอากาศ 90 หลัง สไตล์ทรอปิคอลรีสอร์ท พร้อมทะเลสาบขนาดใหญ่และคันทรี คลับระดับไฮเอนด์ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท โดยโครงการมหาสมุทรจะเข้ามาเติมช่องว่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่านหัวหิน ซึ่งยังขาดในส่วนของโครงการระดับไฮเอนด์ และเราเชื่อมั่นว่าจะมีกำลังซื้อที่สูงทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติที่มองหาอสังหาริมทรัพย์ไฮ-เอนด์ระดับคุณภาพ สอดรับกับเทรนด์ของเออีซี"นายสรพจน์ กล่าว
ด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PACE เปิดเผยว่า การจัดโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลของ PACE ให้กับนักลงทุนสถาบันเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดย PACE ได้นำเสนอข้อมูลที่เน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ มีผลงานและโครงการที่โดดเด่นเป็นที่น่าสนใจของตลาดอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากการเปิดตัวโครงการมหาสมุทรที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ และจะตามมาด้วยโครงการคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้นบนถนนหลังสวนที่คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 4 ปีนี้