แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของกลุ่ม TISCO ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยรวมอยู่ในระดับที่ดี สินเชื่อในทุกภาคส่วนมีการขยายตัว โดยกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกปี 56 มีจำนวน 2.3 พันล้านบาท ขยายตัว 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง นางอรนุช กล่าวว่า กลุ่ม TISCO ยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ คือสร้างการเติบโตให้ทุกกลุ่มธุรกิจด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบก้วย 1) การขยายฐานลูกค้าโดยการขยายช่องทางให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ , 2) การดำเนินธุรกิจแบบ Selective Focus โดยเลือกดำเนินธุรกิจในตลาดที่มีความชำนาญและเป็นธุรกิจที่เติบโตสูง , 3) การเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการ ด้วยการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และการกำกับดูแลกิจการที่ดี และ 4) การสร้างแบรนด์ให้เกิดการรับรู้ของแบรนด์"ทิสโก้" ในวงกว้างมากขึ้น
นางอรนุช เปิดเผยว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.5% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับกว่า 1.2% เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันสินเชื่อในส่วนของรถมือสองเห็นสัญญาณการชะลอจ่ายหนี้ลง ประกอบกับราคาของรถมือสองปรับตัวลดลงถึง 30 % ส่งผลให้ปัจจุบันเกิดภาวะ NPL เร่งตัวขึ้นบ้าง แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำไม่ใช่ภาวะที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารก็ได้เข้มงวดในปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา NPL
ทั้งนี้ ในส่วนของการตั้งสำรองในช่วงครึ่งปีหลังทางธนาคารคาดว่าคงจะต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีการตั้งสำรองกว่า 1.6 พันล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกได้ตั้งสำรองไว้เป็นจำนวนมากแล้ว รวมถึงในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารมีการบันทึกรายการพิเศษเข้ามา อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังที่มีการตั้งสำรองน้อยกว่าครึ่งปีแรกนั้น หากทางธนาคารมีการบันทึกรายการพิเศษเพิ่มเติมก็อาจจะมีการเพิ่มวงเงินการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น
นางอรนุช กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าอาจจะชะลอการเติบโตไปบ้าง แต่ก็ยังขยายตัวได้ ส่วนด้านของสหรัฐฯนั้น มองว่าปัจจุบันเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างแท้จริงเท่าใดนัก กว่าจะเห็นการเติบโตชัดเจนก็คงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 16-18 เดือนและนาจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คาดหวังไว้ จากนั้นจึงจะเห็นภาพการชะลอหรือหยุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้นด้วย