โบรกฯเชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS)ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมีโอกาสขยายจำนวนผู้ใช้บริการได้อีกมาก คาดกำไรจากการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/56 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/56 แต่อาจมีผลขาดทุน FX เล็กน้อย ส่วนทั้งปีมองกำไรเติบโตได้ถึง 40% โดยการควบคุมค่าใช้จ่ายทำได้ดี ยังไม่กังวลคู่แข่งใหม่(CTH) เพราะอาจมีกลุ่มเป้าหมายต่างกัน ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาทำให้น่าสนใจซื้อลงทุนมากขึ้น
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท) ทิสโก้ ซื้อ 9.20 กสิกรไทย ซื้อ 10.00 ดีบีเอส วิคเคอร์ส (Th) ทยอยซื้อ 10.00 ฟิลลิป ซื้อ 9.05
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ คาดกำไร JAS ไตรมาส 2/56 จะออกมาดีราว 750-760 ล้านบาท เติบโต yoy แต่อาจจะชะลอ qoq โดยจำนวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เนตยังเติบโตได้ดี ขณะที่การควบคุมต้นทุนทำได้ดี มีประสิทธิภาพในการบริหารงานเพิ่มขึ้น เพราะมีประหยัดต่อขนาด ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าพื้นฐาน
"อัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตไทยในต่างจังหวัดสามารถที่จะขยายตัวได้อีกมาก JAS มีข้อได้เปรียบตรงนี้"นายอภิชาติ กล่าว
ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(Th) ระบุว่า ประเด็นหลักของ JAS คือผลประกอบการในอนาคตที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เพราะในประเทศไทยอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง(ADSL Broadband)ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ซึ่งมีโอกาสที่ทำให้บริษัทจะเติบโตได้อีกมาก
ส่วนที่กังวลคู่แข่งอย่าง บมจ.ซีทีเอช(CTH) ซึ่งประกาศว่าจะรุกให้บริการอินเตอร์เนตบรอดแบนด์นั้น มองว่าไม่น่ากังวลเนื่องจาก CTH เป็นผู้ชนะลิขสิทธิถ่ายทอดพรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีก ดังนั้น การที่ CTH จะออกบริการบรอดแบนด์น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่มกันกับ JAS เพราะเชื่อว่าคงขายเป็นแพ็คเกจคู่กันของเคเบิ้ลทีวีและอินเตอร์เน็ต กลุ่มลูกค้าจะเป็นระดับกลาง-บน แต่สำหรับ JAS ชัดเจนว่าเป็นลูกค้าระดับกลาง-ล่าง เน้นผู้ที่ต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตจริงๆ และ CTH เน็ตเวิร์คยังไม่มากถึงแม้จับมือกับ INET แต่ก็เน้นลูกค้านิติบุคคล หรือคอร์ปอเรทเป็นหลัก
สำหรับงบไตรมาส 2/56 คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/56 เล็กน้อย แต่ถ้าเทียบ yoy จะเติบโตถึงราว 37% โดยกำไรในไตรมาส 2 ดี แต่อาจจะมีขาดทุน FX เล็กน้อยเนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าพอควรเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็น Extra แต่เราจะดูที่ Core earning มากกว่า ส่วนกำไรทั้งปี 56 น่าจะเติบโต 40% ขณะที่ราคาหุ้นในระดับนี้ยังซื้อได้ แต่ให้เน้นทยอยซื้อเมื่อปรับลง เพราะตลาดช่วงนี้ผันผวนมาก
ด้าน น.ส.รัศดา ทวีแสงสกุลไทย นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดว่า ผลประกอบการ JAS ไตรมาส 2/56 กำไรจากธุรกิจหลัก(Core business)จะอยู่ที่ประมาณ 738 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/56 แต่จะมีผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินบาท จึงมีขาดทุน FX เข้ามาด้วย ขณะที่รายได้ค่าบริการทั่วไปเพิ่มขึ้น 10.5%
"กำไรไตรมาส 2/56 ชะลอเล็กน้อยเพราะมี FX loss แต้ถ้าเทียบเฉพาะโอเปอเรชั่นก็ดีกว่า เพราะไตรมาส 1/56 มี FX gain ด้วย"น.ส.รัศดา กล่าว