(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าซึมตามตปท.ตัวเลขศก.เยอรมนีลดลง-รอความชัดเจน QE จากเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 17, 2013 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ซึมลงตัวเลขเศรษฐกิจโลกเมื่อคืนออกมาค่อนไปทางลบ ทำให้ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า นักลงทุนรอการแถลงนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดถึงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสในวันนี้ เชื่อว่าจะมีความชัดเจนเรื่องมาตรการ QE มากขึ้น ประกอบกับช่วงนี้รอการประกาศผลประกอบการบริษัทเอกชนไม่เพียงแต่ของไทย รวมถึงต่างประเทศด้วย
"ตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่กว่าคาด คือ ผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจของเยอรมันที่ลดลงจากตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ส่วนลสำรวจภาคอุตฯของสหรัฐเป็นไปตามคาด และเงินเฟ้อขยายตัวมากกว่าคาด"นายอภิชาติ กล่าว

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2 ส่วนใหญ่น่าจะออกมาในเกณฑ์ที่ดี แต่หลังจากนั้นไปอาจมีการปรับลดลง เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มแผ่วและประมาณการที่นักวิเคราะห์ทำไว้สูงเกินไปช่วงต้นปี แต่ตอนนี้ตลาดเป็นอีกแบบหนึ่งอาจมีการปรับประมาณการลง ถ้าจะเลือกเล่นเก็งกำไรงบฯควรเลือกหุ้นที่มีจ่ายปันผลระหว่างกาลพ่วงด้วยจะช่วยให้หุ้นที่เลือกปรับตัวดีกว่าตลาด

โดยรวมวันนี้ดัชนีจะแกว่งในกรอบแนวรับ 1,430 และ 1,425 จุด แนวต้าน 1,455-1,460 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดวานนี้ (16 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,451.85 จุด ลดลง 32.41 จุด(-0.21%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,676.26 จุด ลดลง 6.24 จุด(-0.37%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,598.50 จุด ลดลง 8.99 จุด(-0.25%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 107.32 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 56.39 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 21.01 จุด,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.93 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.28 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 10.10 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้ (16 ก.ค.) ที่ 1,451.45 จุด ลดลง 3.95 จุด(-0.27%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 567.12 ล้านบาท วานนี้
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ (16 ก.ค.) ที่ 106 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 32 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้ (16 ก.ค.)ที่ 8.57 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.04/06 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค รอความชัดเจนถ้อยแถลงเฟด
  • เล็งชาร์จภาษีกลุ่มธุรกิจโรงสีหวังชดเชยรายได้ภาษีวีเอทีนำเข้าสินค้าที่ต่ำกว่าประมาณการ ชี้ได้กำไรจากนโยบายรัฐสูง ด้าน"มูดี้ส์"จี้รัฐดูแลงบจำนำข้าวเหมาะสม ไม่ใช้เกินแผนที่วางไว้ "นิวัฒน์ธำรง"สั่งติดชิปคอมพิวเตอร์กระสอบข้าวป้องกันทุจริต ปัดข้าวเพื่อนบ้านสวมสิทธิ์ 7.5 แสนตัน
  • มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเผยผลตรวจข้าวสารถุง 46 ตัวอย่าง พบ12 ราย 26.1% ปลอดสารเคมีตกค้าง ขณะที่ 73.9% ตรวจพบสารรมควันข้าวเมธิลโบรไมด์หลายระดับ จี้รัฐบาลตรวจสอบโรงสีและผู้ผลิต ด้านบริษัทผู้ผลิตข้าวยี่ห้อ โค-โค่-ข้าวขาวพิมพา ประสานมูลนิธิขอข้อมูลเพิ่ม ยันพร้อมเรียกเก็บสินค้าคืนทั้งหมด สธ.ยันไม่มีพิษตกค้างเป็นอันตรายกับผู้บริโภค
  • ทีดีอาร์ไอ เปิดเวทีถกจัดสรรคลื่นทีวีดิจิทัล ชี้สร้างเวทีการแข่งขันเท่าเทียม มุ่งประโยชน์สาธารณะ กสทช.ยันจัดสรรเป็นธรรม เปิดพื้นที่ "รายเก่า-รายใหม่" เจ้าของช่อง ระบุปรับลดสัดส่วนผังรายการข่าว ไม่ส่งผลราคาตั้งต้นประมูล ขณะที่เอกชนเชื่อ"ช่องข่าว"แข่งเดือด คาดราคาประมูลเพิ่มเปิดทางช่องกลุ่มวาไรตี้เข้าชิงประมูลช่อง
  • "กิตติรัตน์"ยันรัฐบาลไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งเดินหน้าโครงการ "บริหารจัดการน้ำ3.5แสนล้าน-โครงสร้างพื้นฐาน2ล้านล้าน" เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ อัดกระแสวิจารณ์หนี้ครัวเรือนพุ่ง ขณะเศรษฐศาสตร์ มธ. คาดเศรษฐกิจปีนี้โตไม่เกิน 4% หนุนรัฐบาลลงทุนเพิ่ม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TRUE (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"ราคาเหมาะสม 10.10 บาท วานนี้ NVDR รายงานซื้อสุทธิหุ้น TRUE เป็นอันดับ 3 มูลค่า 200.3 ล้านบาท จากความคาดหวังเชิงบวกในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะจัดตั้งได้ภายในปี 56 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเชิงโครงสร้างทางการเงินของบริษัทและส่งผลดีต่อฐานะการเงิน เบื้องต้นคาดอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อฐานทุน ลดลงเหลือ 2.0 เท่า จาก 7.6 เท่า และจะมีกำไรพิเศษราว 2.5—2.6 หมื่นล้านบาท จากการขายสินทรัพย์เข้าสู่กองทุน
  • LPN (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท ประเด็นบวกมาจากการสร้างยอดขายที่ต่อเนื่อง ทำให้ยอดสะสมของงานในมือเพื่อรอรับรู้รายได้ยังคงเติบโตสม่ำเสมอ โดยความต้องการสินค้าคอนโดมีเนียมระดับราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทยังได้รับความนิยม รวมถึงการขยายตลาดไปยังต่างจังหวัด รวมถึงสถานะทางการเงินที่ค่อนข้างแข็งแรง ROE 29% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่เราดูแลที่ 26% พร้อมคาดให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลทั้งปี 4% (บริษัทมีปันผลระหว่างกาล)
  • ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 68 บาท แนวโน้มกำไรใน 2Q13 แย่กว่าเดิมที่คาดไว้โดยน่าจะมีกำไร 516 ล้านบาท -6% Q-Q, +9% Y-Y เพราะการชะลอการใช้จ่ายจากหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ชะลอ แต่การบริโภคในต่างจังหวัดยังเติบโตดี แนวโน้มกำไร 3Q13 จะชะลอลงเพราะจะปิดปรับปรุงสาขาบางรัก 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค.) จึงปรับกำไรปีนี้และปีหน้าลง 14% เป็นเติบโต 10% ปีนี้ และโต 22% ปีหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ