กองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โอซากา (Osaka Securities Exchange, “OSE") ประเทศญี่ปุ่น กองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund มีนโยบายการลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Nikkei 225 และหุ้นที่กำลังจะมาเป็นส่วนประกอบของดัชนี Nikkei 225 โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนี Nikkei 225
ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับส่วนที่เหลือกองทุนอาจลงทุนในหลักทรัพย์ ตราสารทางการเงินอื่นๆ
“กองทุน “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้" เป็นกองทุนที่เหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน รวมถึงเพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่ดี จากแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งผู้ลงทุนต้องสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้" นายสาห์รัช กล่าว
นายสาห์รัช กล่าวมว่า แม้ราคาตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว แต่ถือว่าเป็นระดับที่เข้าลงทุนได้ ณ ระดับราคาปัจจุบันจึงถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจเข้าไปลงทุนเพิ่ม ซึ่ง “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้" นับเป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์การลงทุนในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี
ด้านนางสาววรสินี สังวรเวชภัณฑ์ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ทิสโก้ เวลธ์ กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอดีตในช่วงที่เกิดวิกฤติจะมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 0.9% แต่จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจของญีปุ่นเริ่มฟื้นตัว โดยในปี 2555 มีตัวเลขการขยายตัวอยู่ที่ 1.2% และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี NIKKEI ในปีนี้คาดว่าจะมีการขยายตัวอยู่ที่ 60% และในปี 2557 จะขยายตัวอยู่ที่ 12% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตของกำไรที่โดดเด่นที่สุดในโลก
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นคาดว่าจะส่งผลให้ราคาหุ้นในแง่ P/E ปรับลดลง หรือเมื่อเปรียบเทียบกับราคาปัจจุบันที่ 20.4เท่า จะลดลงมาอยู่ที่ 18 เท่า ในสิ้นปี 2556 โดยทั้งราคาหุ้นในปัจจุบัน และราคาหุ้นเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานปี 2556 ยังคงถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี ย้อนหลังที่ 22.9 เท่า ในปัจจุบันดัชนี NIKKEI เทรดอยู่ที่ระดับ P/E บนคาดการณ์ผลกำไรของปี 2556 ที่ราว 16.6 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในช่วง 3 ปีย้อนหลัง โดยหากสมมติให้ดัชนีเทรดที่ระดับ P/E เฉลี่ยในช่วงดังกล่าวที่ 21.2 เท่า หรือระดับสูงสุดที่ 25 เท่า ดัชนี NIKKEI ก็จะมี Upside จากระดับปัจจุบันอยู่อีกถึง 22% และ 44% ตามลำดับ