นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) กล่าวในการสัมมนา“โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทยในยุค Connectivity"ว่า ในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)จะทำให้มีการเดินทางที่เพิ่มขึ้น สายการบินไทยสมายล์จะเข้ามามีบทบาทสำคัญและสร้างรายได้ให้กับการบินไทย เพราะสายการบินไทยสมายล์จะให้บริการไปยังเมืองต่างๆ ในอาเซียน โดยใช้จุดเด่นที่ประเทศไทยมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาค
ส่วนกรณีที่การบินไทยยังไม่สามารถแยกไทยสมายล์จากที่เป็นหน่วยธุรกิจมาตั้งเป็นบริษัทนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน โดยกระบวนการตั้งบริษัทอยู่ระหว่างรอการแต่งตั้งกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งอาจทำให้ขั้นตอนล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค.57 จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.57
นายสรจักร กล่าวอีกว่า ภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง หลายฝ่ายอาจคิดว่าคู่แข่งของการบินไทยคือสายการบินคู่แข่ง แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าคู่แข่งสำคัญ คือ ระบบการบริหารงานแบบรัฐวิสาหกิจที่ไม่คล่องตัว และไม่ตอบสนองต่อสถานการณ์ธุรกิจและการแข่งขัน ขณะที่ธุรกิจสายการบินมีการแข่งขันรุนแรงมาก สังเกตจากกำไรขั้นต้นที่ต่ำมากเพียง 2% ทำให้สายการบินต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด
"ผมได้กระตุ้นให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญนี้และให้นโยบายภายใต้สโลแกน SAFE ประกอบด้วย Speed ต้องมีความเร็ว Alertness ต้องรับรู้และตอบสนองทันต่อเหตุการณ์ Flexibility ต้องมีความยืดหยุ่น และ Entrepreneurial Attitude ต้องมีทัศนคติแบบผู้ประกอบการ"นายสรจักร กล่าว