SCC สรุปเงินกู้ปิโตรฯคอมเพล็กซ์เวียดนามปลายปี 57,จบ M&A อย่างน้อย 1 ดีลปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 17, 2013 18:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC)คาดว่า ในปลายปี 57 จะสรุปเรื่องเงินกู้โครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม ซึ่งจากการหารือกันระหว่างหุ้นส่วนของโครงการนี้จะมี Debt Equity Ratio 1.5 เท่า โดยคาดว่ากรอบวงเงินลงทุนจะยังอยู่ในกรอบ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้กำลังหาข้อมูล เจรจาซื้อขายเครื่องจักร และหาผู้รับเหมา คาดว่าราคาเครื่องจักรทั้งจากยุโรปและญี่ปุ่นมีราคาต่ำลง เนื่องจากไม่ค่อยมีโครงการปิโตรเคมีแห่งใหม่ และเงินเยนถูกลงช่วงนี้ทำให้เครื่องจักรราคาถูก

ทั้งนี้ คาดว่าโครงการนี้จะก่อสร้างเสร็จใน 6 ปีข้างหน้า และไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ บมจ.ปตท.(PTT)จะสร้างปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนามเช่นกัน เพราะอยู่คนละพื้นที่และโครงการนี้จะผลิตและจำหน่ายในเวียดนามทั้งหมด

สำหรับผู้ร่วมทุนในโครงการดังกล่าว ได้แก่ ปิโตรเคมีเวียดนาม การ์ต้าปิโตรเลียม อินเตอร์เนชั่นแนล และปูนซีเมนต์ไทย

นอกจากนี้ SCC ได้มีการเจรจา 2-3 ดีลในอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท คาดว่าภายในปีนี้เห็นความชัดเจนหรือสรุปดีลได้อย่างน้อย 1 ดีลในปีนี้

นายกานต์ กล่าวว่า SCC ยังคงใช้ยุทธศาสตร์ในการทำ M&A กิจการในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนเป็นแนวทางแรกก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนเอง เพราะมองว่าสามารถเข้าดำเนินกิจการได้เร็วและมีตลาดอยู่แล้ว

"ในช่วง 2-3 ปีผ่านมาบริษัทใช้ยุทธศาสตร์ M&A โดยงบลงทุน 9.5 หมื่นล้านบาท โดย 60% หรือกว่า 5 หมื่นล้านบาท เป็น M&A ส่วนอีก 30% หรือ 3 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนด้วยตัวเอง ซึ่งหลายโครงการยังอยุ่ในขั้นตอนก่อสร้าง เช่น โครงการอิฐมวลเบาที่อินโดนีเซีย"นายกานต์ กล่าว

นายกานต์ กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการในพม่าที่จะจัดตั้งโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ ขนาดกำลังผลิต 1.8 ล้านตัน/ปี คาดว่าจะนำเข้าเสนอคณะกรรมการในเดือนก.ค. หรือ ส.ค. นี้ ซึ่งได้วางงบประมาณไว้แล้วมากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ คาดว่ากำลังการผลิตดังกล่าวจะใช้ในพม่าทั้งหมด

ที่ผ่านมา SCC ส่งออกปูนซีเมนต์ไปพม่าประมาณ 1.8-1.9 ล้านตัน/ปี

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/56 สเปรดปิโตรเคมีอยู่ในเกณฑ์ที่ดีประมาณ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ในไตรมาส 3/56 สเปรดลดลงเล็กน้อยประมาณ 20-30 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้นทำให้วัตถุดิบ (แนฟทา) สูงขึ้น แต่รอดูว่าราคาผลิตภัณฑ์น่าจะปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ แม้จะมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลง โดยคาดการณ์ GDP จีนโต 7.5% ก็ยังถือว่าว่าเป็นระดับที่สูง และเศรษฐกิจในอาเซียนยังเติบโตดี แม้ไทยจะปรับลดประมาณการ GDP ลงก็ตาม ดังนั้นมั่นใจยุทธศาสตร์ที่บริษัทยังโฟกัสในอาเซียนยังเติบโตได้ดี

ส่วนความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศ ยังคงคาดว่าเติบโต 10% ในปีนี้ แม้ว่าโครงการก่อสร้างภาครัฐอาจล่าช้า แต่ว่าความต้องการปูนซีเมนต์ในต่างจังหวัดโดยเฉพาะตามชายแดนปรับตัวสูงขึ้น และในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาความต้องการปูนซิเมนต์ในประเทศอยู่ที่ 10% และคาดว่าในปีนี้ SCC จะส่งออกต่ำกว่า 5 ล้านตัน

พร้อมระบุว่า SCC ไม่สนใจเข้าซื้อกิจการบริษัทโกรเฮ่ ในยุโรป แม้จะได้มีการพุดคุยมาก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ