สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB196A (รุ่นอายุ 3.9 ปี, 1.8 ปี และ 5.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 7,519 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A) มูลค่า 541.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT139A) มูลค่า 202.8 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (QH162A) มูลค่า 67.5 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 811.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 11,822 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 539 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 812 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.43% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่น Benckmark อายุ 20 ปี ที่ประมูลวันนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 2.74 เท่าของวงเงินประมูล ด้านนักลงทุนจับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(Fed)คืนนี้ ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินและมาตรการ QE อย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อ Global Sentiment สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 812 ล้านบาท