นอกจากนี้ AOT ยังมีแผนขยาย Capacity ของสนามบินอีกด้วย ทั้งสุวรรณภูมิเฟส 2, สนามบินดอนเมืองมีแผนจะให้บริการ Terminal 2 และที่สนามบินภูเก็ตเฟส 2 ด้วย ตรงนี้เป็นการขยายความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นจากที่เกินความจุที่สามารถให้บริการได้ในขณะนี้
อีกทั้ง การเปิด AEC จะทำให้มีการเดินทางในภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อ AOT พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิงวดปีนี้(ต.ค.55-ก.ย.56)ไว้ที่ 10,500-11,299 ล้านบาท เติบโตจากงวดปีที่แล้ว(ต.ค.54-ก.ย.55)ที่มีกำไรสุทธิ 6,500 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก(ต.ค.55-มี.ค.56)สามารถทำกำไรได้แล้ว 8,000 ล้านบาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ทิสโก้ ซื้อ 235 บล.ธนชาต ซื้อ 230 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 208 บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 195 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 190 บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 190 บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 187 บล.ภัทร ซื้อ 185
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของ AOT จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ยังเติบโตดีอยู่ โดยในช่วง high season ของปีนี้คาดว่าจะดีมาก เนื่องจากไทยได้เปรียบกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค จากที่ไทยเรามีค่าครองชีพที่ต่ำ ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจในยุโรป และสหรัฐอเมริกาไม่ดี เวลาจะหาสถานที่ท่องเที่ยวก็ย่อมที่จะต้องหาประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำ
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าในช่วง low season ปีนี้จำนวนผู้โดยสารยังดีอยู่ เนื่องจากจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี ยังมีกรณีพิพาทกัน ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาเมืองไทย ทำให้ช่วง low seaon ปีนี้ไม่ได้ drop มากเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ
AOT ยังมีการขยาย Capacity ของสนามบินอีกด้วย จากการเปิดใช้พื้นที่สนามบินที่ดอนเมืองเพิ่ม และยังมีแผนจะขยายไปใช้อาคาร 2 และอาคาร 3 ซึ่งน่าจะเปิดใช้อาคาร 2 ได้ช่วงกลางปีหน้าใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท
อีกทั้งยังมีแผนขยายสนามบินภูมิภาคด้วย คือที่ ภูเก็ต เนื่องจากรองรับผู้โดยสาร(Capacity)ได้ 6 ล้านคน แต่ในปี 55 มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการมากถึง 9 ล้านคน จึงทำให้ AOT มีแผนจะสร้าง Terminal outdoor ขึ้นมาใช้ในปีหน้าก่อน และตามแผนจะสร้างอาคารขึ้นมา ซึ่งกว่าจะเสร็จและพร้อมให้บริการได้ก็น่าจะเป็นปี 2558 จากนั้นค่อยย้ายผู้โดยสารจาก Terminal outdoor เข้ามาที่อาคารหลัก แต่ถ้าจำนวนผู้โดยสารยังเพิ่มขึ้นอีก AOT ก็ยังสามารถใช้ Terminal outdoor ต่อไปได้
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิในงวดปีนี้(ต.ค.55-ก.ย.56)ไว้ที่ 11,299 ล้านบาท เติบโต 74% จากปีที่แล้ว(ต.ค.54-ก.ย.55)ที่มีกำไรสุทธิ 6,500 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก(ต.ค.55-มี.ค.56)AOT สามารถทำกำไรได้แล้ว 8,000 ล้านบาท
ด้านนายกวี มานิตสุภวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส ให้เหตุผลที่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น AOT เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโต 16% และเติบโตต่อเนื่อง 12% ในปี 57 ทั้งนี้แม้แต่กระทรวงการท่องเที่ยวก็มีการประกาศออกมาว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวขึ้นก็ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ การขยาย Capacity สนามบินดอนเมือง หลังจากสนามบินสุวรรณภูมิไม่เพียงพอ ขณะนี้ก็กำลังจะขยายพื้นที่ให้บริการในอาคาร 2 ที่ดอนเมืองเพิ่มขึ้น โดยจะเปิดให้สายการบินระหว่างประเทศขนาดเล็กเข้ามาลงที่ดอนเมืองในอนาคต ช่วยหนุนรายได้เพิ่มขึ้น
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิงวดปีนี้(ต.ค.55-ก.ย.56)ที่ 10,500 ล้านบาท เติบโตจากงวดปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 6,500 ล้านบาท และในงวดปีหน้า(ต.ค.56-ก.ย.57)คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 13,000 ล้านบาท
ส่วนนายอำนาจ โงสว่าง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า AOT ยังมีการเติบโตดีตามจำนวนผู้โดยสารที่เติบโตต่อเนื่อง AOT จึงมีแผนจะขยายสุวรรณภูมิ เฟส 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 59-60 ซึ่งจะใช้งบลงทุนประมาณ 62,000 ล้านบาท เพื่อให้บริการผู้โดยสารได้ 65 ล้านคน/ปี จากปัจจุบัน 45 ล้านคน/ปี ปีนี้คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการที่สุวรรณภูมิเกือบ 50 ล้านคน
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะให้บริการ Terminal 2 เพิ่มขึ้นที่ดอนเมืองด้วยงบลงทุน 3,400 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 27.5 ล้านคน/ปี และ AOT ยังมีแผนจะขยายสนามบินภูเก็ตที่ขณะนี้รองรับผู้โดยสารได้ 6.5 ล้านคน/ปี และปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 10 ล้านคน โดยมีแผนจะทำเฟส 2 เพื่อรองรับผู้โดยสารได้เป็น 12.5 ล้านคน/ปีแล้วเสร็จในปี 58 ใช้งบลงทุน 5,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเปิด AEC ทำให้มีการเดินทางมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อ AOT ด้วย พร้อมคาดการณ์กำไรปกติปีนี้(ต.ค.55-ก.ย.56)ไว้ที่ 9,800 ล้านบาท เติบโต 42% จากกำไรปกติของปีที่แล้ว(ต.ค.54-ก.ย.55)ที่มี 6,900 ล้านบาท