ทั้งนี้กรณีการดำเนินการเยียวยาหลังการสิ้นสุดสัมปทาน 1800 MHz จะเร่งให้มีการประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยที่ประชุมให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานประชาสัมพันธ์เพื่อดำเนินงานในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ซึ่งมั่นใจว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุดไม่เกิน 1 ปี เพื่อเข้าสู่วิธีการประมูลคลื่นดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ ได้พิจารณาอนุมัติเลขหมายให้แก่ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ได้ขอรับการจัดสรรเลขหมายเพิ่มจำนวน 6 ล้านเลขหมาย และ บมจ. กสท.โทรคมนาคม ได้ขอเพิ่มเลขหมาย จำนวน 10 ล้านเลขหมาย รวมถึงบมจ.ทีโอที ได้ขอเพิ่มเลขหมายจำนวน 5 ล้านเลขหมาย
พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนการประชุมในวันนี้ได้มีตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภค ประกอบด้วย สมาพันธ์เครือข่ายผู้บริโภคมุสลิม สมาพันธ์เครือข่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคแห่งประเทศไทย สมาคมบรอดแบนด์เพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาสประเทศไทย สมาคมบรอดแบนด์เพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาสประเทศไทย สมาคมดาวเทียมสื่อสารเพื่อพัฒนาประเทศไทย (ส.ค.พ.ท.) สมาคมโทรคมนาคมเพื่อวิชาชีพและสังคม สมาคมคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้ และเครือข่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดระยอง ได้ยื่นคำแถลงการณ์แสดงจุดยืนในเรื่องการดำเนินการของ กสทช.กรณีแก้ปัญหาซิมดับ
โดยมีใจความว่า 1.สนับสนุนการดำเนินงานของ กสทช.ในการเตรียมการจัดประมูลคลื่น 1800 MHzและการออกประกาศกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเพื่อมิให้เกิดกรณีซิมดับเมื่อสัมปทาน 1800 MHz สิ้นสุด เนื่องจากเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ปกป้องประโยชน์สาธารณะ
2.แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำแถลงการณ์ของคณะกรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน รวมทั้งกลุ่มอื่นที่อ้างความชอบธรรม ในการเคลื่อนไหวเร่งรัดให้ กสทช.จัดประมูลคลื่น 1800 MHz อย่างเร่งด่วนก่อนวันสิ้นสุดสัมปทานโดยไม่คำนึงถึงความพร้อมของสภาพอุตสาหกรรโทรคมนาคม และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการที่ยังคงค้างอยู่ในระบบเนื่องจากจะทำให้ไม่สามารถจัดสรรคลื่น 1800 MHzให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
3.แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้ซิมดับ โดยไม่มีมาตรการทางกฎหมายที่ชัดเจนเยียวยาผู้ใช้บริการคลื่น 1800 MHz ภายใต้สัมปทานที่จะสิ้นสุด
4. ประณามการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของผู้บริโภคในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริงแก่ประชาชนให้เข้าใจผิดว่ามาตรการทางกฎหมายที่ กสทช.จะออกเพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการในช่วงสูญญากาศเมื่อสัมปทานสิ้นสุดเป็นการยืดอายุสัมปทาน และขอประณามความพยายามใดๆที่จะใช้รัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดกั้นการเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานไปสู่ระบบการออกใบอนุญาต
5.เรียกร้องให้ กสทช. คณะกรรมการติดตามและประเมินผลฯ หรือซูเปอร์บอร์ด รวมทั้งวุฒิสภา, ปปช. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของบอร์ด กสทช. สายคุ้มครองผู้บริโภคที่ละเลยการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งไม่เคารพมติขององค์กรและขาดจริยธรรมโดยปลุกระดม ร่วมมือกับกลุ่มเครือข่ายทั้งภายในและภายนอก กสทช.มากดดันการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของ กสทช.รวมทั้งคัดค้านมาตรการทางกฎหมายที่ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่ใช้บริการคลื่นสัมปทาน 1800 MHz ซึ่งหากการคัดค้านเป็นผลสำเร็จจะทำให้เกิดกรณีซิมดับ และเกิดความเสียหายต่อผู้ใช้บริการที่ค้างอยู่ในระบบเป็นอย่างมาก
6.เรียกร้องให้ กสทช.ให้ความสำคัญต่อข้อเสนอของกลุ่มเครือข่ายผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติและต้องไม่ให้ความสำคัญต่อเฉพาะกลุ่มเครือข่ายบางกลุ่มเท่านั้น
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ กสทช.ด้านกฎหมาย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน (ประชาพิจารณ์) ต่อร่างประกาศ มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานหรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. ... ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 ก.ค. 2556 ที่สโมสรกองทัพบก ซึ่งมาตรการเยียวยานี้เป็นคนละส่วนกับการจัดสรรคลื่นความถี่ที่มีประชาชนกลุ่มเครือข่ายผู้บริโภคส่วนหนึ่งเข้าใจกระบวนการทำงานของ กทค. คลาดเคลื่อนทำให้มีความเห็นให้ กทค. รีบดำเนินการจัดประมูลจัดสรรคลื่น 1800 MHz เพื่อไม่ให้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
อนึ่ง สัญญาสัมปทานของทรูมูฟ บริษัทในกลุ่ม TRUE และ ดีพีซี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จะสิ้นสุดในวันที่ 15 ก.ย. 56 นี้ พร้อมกัน