(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามตลาด ตปท.sentiment บวก, ลดคาด GDP ไม่มีผล

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 19, 2013 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อได้ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ แต่ positive movement อาจไม่ได้ขึ้นไปแรง ซึ่งเป็นธรรมดาที่เมื่อปรับขึ้นแรงก็จะมีการพักตัวหรือเจอมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมาด้วย เพราะยังเชื่อว่าตลาดหุ้นเดือนก.ค.ยังอยู่ในภาวะผันผวน เพียงแต่ปัจจัยหนุนทางบวกมาจากประเด็นเรื่องความกังวล QE คลี่คลาย เป็นเรื่องจิตวิทยาผสมกับ Fundamental ที่จะส่งผลต่อตลาดในระยะยาว ประกอบกับปลายสัปดาห์นี้จะมีวันหยุดยาว คาดว่าดัชนีน่าจะมีการแกว่งตัวระหว่างวัน

สำหรับตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นบวก โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งบวกและลบ

ปัจจัยในประเทศวันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะประกาศปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) หลังจากส่งสัญญาณการปรับลดจากประมาณการเดิม เชื่อว่านักลงทุนรับทราบและสะท้อนในภาพรวมตลาดไปแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ นอกจากนี้ วานนี้นักยุทธศาสตร์ของแบงก์ชาติให้มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นบวก แต่อัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นขาขึ้นแล้ว

วันนี้ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,480-1,495 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดวานนี้ (18 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,548.54 จุด เพิ่มขึ้น 78.02 จุด(+0.50%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,689.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด(+0.50%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,611.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด(+0.04%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 101.26 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 106.38 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 76.94 จุด,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.96 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.84 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 3.40 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้ (18 ก.ค.) ที่ 1,487.19 จุด เพิ่มขึ้น 29.11 จุด(+2.00%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 580.82 ล้านบาท วานนี้( 18 ก.ค.)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ (18 ก.ค.) ที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้ (18 ก.ค.)ที่ 8.74 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.04/07 แต่มองแนวโน้มวันนี้มีทิศทางอ่อนค่า
  • "พาณิชย์"ถกชาวนาเสนอลดราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้าฤดูกาลผลิต 2556/57 เหลือตันละ 1.35 หมื่นบาทต่อตัน พร้อมจำกัด 4 แสนบาทต่อครัวเรือนคาดใช้วงเงินจำนำ 2.2 แสนล้านบาท ถกกระทรวง เกษตรฯช่วยหาทางลดต้นทุน หารือคลังกรอบวงเงิน ก่อนเสนอ กขช. ด้านชาวนาขอหารือสมาชิกก่อนยอมรับราคา ผู้ส่งออกระบุตลาดต่างประเทศไม่วิตกสารตกค้างข้าวไทย ผู้ประกอบการข้าวถุงรับผู้บริโภคภายใน ไม่มั่นใจเลือกซื้อ
  • ปตท.วางแผนระยะยาวมุ่งเพิ่มสัดส่วนลงทุนต่างประเทศดันรายได้ทะลุ 4 ล้านล้านบาทใน 5 ปี ติดชาร์ท 1 ใน 50 ฟอร์จูน โกลบอล เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กร ควบรวมบริษัทในเครือ เหลือ 3 ธุรกิจหลัก"สำรวจและผลิตปิโตรเลียม-เคมิคอล- โรงกลั่นน้ำมัน"
  • ปัญหาสินเชื่อและอสังหาฯในจีนป่วนตลาดเอเซีย แม้จะคลายความกังวลเฟดยุติคิวอี ด้านไอเอ็มเอฟมั่นใจรัฐบาลจีนรับวิกฤติได้จากการเร่งปฏิรูป ขณะมูดี้ส์ระบุไม่กระทบประเทศเอเชีย-แปซิฟิกมีเสถียรภาพ
  • เอเจนซี่ฯ เผยผลสำรวจอสังหาครึ่งปีหลังส่งสัญญาณชะลอตัว 10% ชี้แนวโน้มลูกค้าคอนโดขอสินเชื่อไม่ผ่านเพิ่มขึ้นเป็น 12-15% แนะรัฐวางกรอบเข้มเงินดาวน์ 15-20% ลดความเสี่ยง ด้านผู้ประกอบการยันแค่ชะลอดตัว ไม่ถึงขั้นฟองสบู่
  • แบงก์กรุงเทพ กำไรครึ่งแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 13.1% ขณะที่เอ็นพีแอลเพิ่ม ด้าน 'ทหารไทย' เร่งรับมือความไม่แน่นอนเศรษฐกิจ เพิ่มสำรองพิเศษ 4 พันล้านบาท โชว์กำไร 2 พันล้านบาท ส่วนหนี้เสียเพิ่ม 265 ล้านบาท 'ซีไอเอ็มบี' กำไรเพิ่ม 64.4% ตามรายได้ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 14.10 บาท คาดกำไร 2Q56 ที่ 77 ล้านบาท (+131% YoY, +6% QoQ) อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเล็กน้อยจากค่าใช้จ่ายพิเศษลดลงจาก 1Q56 และจะลดลงต่อเนื่องใน 3Q56 ที่จะมีค่าใช้จ่ายนี้เป็นไตรมาสสุดท้ายทำให้ 2H56 กำไรจะดีกว่า 1H56 งานโครงการขนาดใหญ่อย่าง Smart Thailand และ 3G สร้างโอกาสงานวางระบบ และงานพัฒนา Application หนุนการเติบโตกำไรปี 2557 ราคาหุ้นยังฟื้นตัวช้ากว่ากลุ่มและมี PER ปี 2557 ต่ำเพียง 10 เท่า พร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 4.5%
  • BBL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 235 บาท รายงานกำไรสุทธิ Q2/56 ดีกว่าคาด +14% Q-Q, +18% Y-Y จากการกลับประมาณการผลขาดทุนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่โอนไป TAMC 2,579 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนเอาไปตั้งสำรองเพิ่มขึ้น จนทำให้ coverage ratio เพิ่มสูงขึ้นเป็น 206% สูงสุดในกลุ่ม หากตัดรายการพิเศษทั้งหมด กำไรปกติเป็นไปตามคาดโดยการขยายตัวของสินเชื่อและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยทำได้ดีน่าประทับใจ
  • BEAUTY(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"มูลค่าเหมาะสมใหม่ 28.40 บาท จากเดิม 13.80 บาท มองเป็น Growth stock ที่มีปัจจัยพื้นฐานน่าสนใจในแง่การเติบโตของกำไรสุทธิสม่ำเสมอและมีอัตราเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับ[ริษัทในกลุ่มค้าปลีกที่ศึกษา ได้แก่ CPALL,HMPRO และ KAMART มุมมองบวกต่อโอกาสเติบโตการขยายสาขาต่างประเทศและเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านร้านรูปแบบใหม่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ