เช้าวันนี้ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเห็นชอบให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย เข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กองทุน)ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งกองทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน)
ทั้งนี้ บริษัทจะจำหน่ายสินทรัพย์ รายได้บางรายการ และ/หรือ ให้เช่าทรัพย์สินบางรายการของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย ภายหลังจากที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนเพื่อเป็นทรัพย์สินที่ลงทุนครั้งแรกของกองทุน และ (2) ขายทรัพย์สิน รายได้บางรายการ และ/หรือ ให้เช่าทรัพย์สินในอนาคตบางรายการของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย แก่กองทุน ภายหลังจากที่บริษัทฯ จำหน่ายทรัพย์สินที่ลงทุนครั้งแรกให้แก่กองทุนแล้ว
การขายทรัพย์สินและรายได้และการให้เช่าทรัพย์สินแก่กองทุน จะมีมูลค่ารวมขนาดของรายการไม่น้อยกว่า 70,000 ล้านบาท และขนาดของรายการตามประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยอ้างอิงข้อมูลจากงบการเงินรวมฉบับสอบทานล่าสุดของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556
ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่จะจำหน่ายมีรายละเอียดดังนี้ (1) เสาโทรคมนาคม (ซึ่งรวมทั้งเสาที่ตั้งบนพื้นดินเสาที่ตั้งบนดาดฟ้าและโครงข่าย Distributed Antenna System) จำนวนประมาณ 13,000 เสา (2) โครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber OpticCable, “FOC") อุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ จำนวน45,000 คอร์กิโลเมตร (core-km) และ 9,000 ลิ้งค์ และ (3) โครงข่ายบรอดแบนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด มีจำนวน 1.2 ล้านพอร์ต
2.ขายสิทธิรายได้ สิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้ที่เกิดจากการให้เช่าอุปกรณ์ 3G HSPA (Node B และอุปกรณ์โครงข่ายหลัก) จำนวน 13,500 สถานีฐาน
3.ให้เช่าทรัพย์สิน เสาโทรคมนาคม ไม่เกิน 100 เสา
มูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการจำหน่ายไปในธุรกรรมขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สินจะไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท โดยมูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการได้มาในธุรกรรมเช่ากลับและเช่า/เช่าช่วงจะไม่เกิน 55,000 ล้านบาท (ระยะเวลาการเช่าไม่เกิน 15 ปี)
บริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินรายได้ และ/หรือ การให้เช่าทรัพย์สินไปชำระหนี้สินบางส่วนซึ่งรวมถึงเงินกู้ที่บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยอาจนำเงินบางส่วนไปลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติให้ขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่มิใช่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจให้มีความชัดเจนและรองรับการจัดโครงสร้างของกลุ่มบริษัทฯ ในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯสามารถลดค่าใช้จ่าย และ เงินลงทุนต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก