นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจขยายตัวทำให้ลูกค้าหลายรายต้องการระดมทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์แทนการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบมีความต้องการระดมทุนประมาณ 1.5 แสนล้านบาท
นายธีรพันธ์ ยกตัวอย่างของ บลจ.ฟินันซ่า ขณะนี้มีแผนจะยื่นขออนุญาต ก.ล.ต.ออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ใหม่อีก 3-4 กอง มูลค่าระดมทุนรวม 4-5 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาออกอีก 2 กองทุน มูลค่าระดมทุนกว่า 2 พันล้านบาท นอกจากนั้นยังมีการเจรจากับลูกค้าที่ต้องการระดมทุนรวมอีกกว่า 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับเหตุผลที่ผู้ประกอบการและผู้ลงทุนเห็นว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบเดิมมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีรายได้ที่ชัดเจนจากสินทรัพย์และมีหลักประกัน เช่น หากเป็น Freehold ก็จะเป็นที่ดินและอาคาร หรือหากเป็น Leasehold ก็จะมีอายุในสิทธิการเช่า รวมทั้งยิ่งเป็นภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ ผลตอบแทนการลงทุนก็สูงถึง 7-8% ก็เป็นการลงทุนที่ดี อีกทั้งมีความคล่องตัวสูง เพราะสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ หรือนักลงทุนจะเลือกลงทุนระยะยาวก็ได้
นอกจากนั้น ผู้ลงทุนยังได้รับยกเว้นภาษีรายได้และเงินปันผล แต่สำหรับ REIT ยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องภาษี และหลักเกณฑ์อื่น ๆ