“บริษัทฯ ได้เซ็น MOU กับ ASHOK LEYLAND ในการจัดตั้งบริษัทฯ เพื่อจัดจำหน่ายและประกอบรถบรรทุกและรถโดยสาร โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีระบบ Fleet สมบูรณ์แบบ ซึ่ง ASHOK LEYLAND มีความสามารถในการผลิตรถบรรทุกและรถโดยสารนับแสนคันต่อปี ด้วยคุณสมบัติของรถ ราคา การบริโภคเชื้อเพลิง ประกอบถึงความทนทาน และที่สำคัญคือทางผู้ผลิตได้เตรียมการเข้ามาจัดตั้งศูนย์อะไหล่เพื่อบริการหลังการขาย ซึ่งมองว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน"นายชำนาญ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 56 ถือเป็นปีที่บริษัทขยายงานอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมในธุรกิจที่หลากหลายขึ้น โดยเริ่มจากการสร้างศูนย์การค้า ที่อำเภอศาลายา หลังมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็น Education Hub พร้อมทั้งการจัดตั้งบริษัท พรีเมี่ยม เฟล็กซิเบิ้ล แพคเกจจิ้ง จำกัด หรือ PFP โดยจะผลิตวัสดุหีบห่อชนิดอ่อน เช่น แผงยา อาหารกลุ่มประเภทนมและโยเกิร์ต
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะมีธุรกิจที่จะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของโลจิสติกส์เพราะปัจจุบันต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของไทยอยู่ที่ประมาณ 15% ของ GDP ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับในประเทศที่เจริญแล้วซึ่งอยู่ไม่เกิน 10% ทั้งนี้ ในปี 56 บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 2 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 43% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.48 พันล้านบาท
“การขนส่งของไทยยังเน้นอยู่ที่ระบบถนนซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยเฉพาะต้นทุนทางเชื้อเพลิง แต่ในปัจจุบันเรายังไม่มีทางเลือกอื่น เช่น การขนส่งระบบรางหรือทางน้ำ ดังนั้น การพัฒนาการขนส่งทางถนนจึงมีความจำเป็นต้องปรับปรุง บริษัทฯ ได้ดำเนินการสั่ง Aluminium Profile เพื่อใช้ผลิตรถพ่วงกึ่งลาก ประเภทสามเพลาพื้นเรียบ และสามารถเพิ่มน้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้นเกือบสามตัน ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าเชื้อเพลิงและการซ่อมบำรุง"นายชำนาญ กล่าว