ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารได้ตั้งสำรองสูงถึง 132% ซึ่งเป็นจำนวนมากเป็นลำดับต้นๆของระบบธนาคารพานิชย์ของไทย ซึ่งตั้งสำรองในระดับสูงไม่ได้เป็นผลกระทบจากความเสี่ยงในด้านของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) แต่เป็นไปตามหลักปฏิบัติ 3 ข้อ คือ 1.เมื่อมีกำไรก็ต้องมีการตั้งสำรองเพื่อรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในอนาคต 2.พอร์ตของธนาคารต้องมีการกระจายตัวให้เหมาะสมไม่ให้มีการกระจุกตัวจนเกินไป
และ 3.ต้องมีการบริหารให้มีฐานเงินทุนที่เข็งแรง ซึ่งขณะนี้ธนาคารมีเงินกองทุนต่อทรัพย์สินเสี่ยงในระดับ 16% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ประมาณ 11.5%
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ธนาคารมั่นใจว่า NPL ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะปรับลดลง แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/56 สัดส่วน NPL จะสูงขึ้นมาเป็น 4.03% ต่อสินเชื่อรวม จากสิ้นไตรมาส 1/56 ที่อยู่ที่ระดับ 4.00%