(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลง กังวลการเมือง-ศก.ในปท.ส่งสัญญาณอ่อนตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ เศรษฐกิจในประเทศที่สัญญาณอ่อนตัวกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะยอดขายของกลุ่มค้าปลีก ล่าสุดได้มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ลงและยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ โดยเศรษฐกิจจีนชะลอ ล่าสุดดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนออกมาแย่กว่าคาด ทำให้แนวโน้มการส่งออกของไทยไปจีนที่เป็นตลาดใหญ่อาจมีแนวโน้มที่ไม่ดีไปด้วย

"SET วันนี้น่าจะทรงหรือปรับลงได้ จากการเมืองที่เริ่มมีสัญญาณที่น่าจะร้อนแรงช่วงเปิดสภาฯ เมื่อวานพรรคเพื่อไทยลงมติจะเอาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯเป็นวาะแรก เป็นปัจจัยที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยอาจมีปัญหา"นายอภิชาติ กล่าว

วันนี้ให้แนวต้าน 1,515-1,520 แนวรับ 1,495 จุด แต่หากหลุด 1,495 จุด ต้องตั้งหลักใหม่ แต่คิดว่าดัชนีผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(24 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,542.24 จุด ลดลง 25.50 จุด(-0.16%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,685.94 จุด ลดลง 6.45 จุด(-0.38%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,579.60 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด(+0.01%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 15.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 96.79 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 23.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 9.79 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 0.10 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.95 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 5.30 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(24 ก.ค.) ที่ 1,501.36 จุด ลดลง 11.95 จุด(-0.79%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 416.30 ล้านบาท เมื่อ 24 ก.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(24 ก.ค.)ที่ 105.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.84 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(24 ก.ค.)ที่ 7.58 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.06/08 อ่อนค่าตามราคาทอง-Major Currency
• กสทช.ประกาศออกอากาศ"ทีวีดิจิทัล"30 ช่องใหม่ กลุ่มธุรกิจ 24 ช่อง - สาธารณะ 6 ช่อง ครั้งแรกวันที่ 5 ธ.ค.นี้ คิกออฟโทรทัศน์ระบบดิจิทัลแจกไลเซนโครงข่าย 4 ราย ส.ค.นี้ เปิดขายกล่องรับสัญญาณ เดินหน้าประมูล 24 ช่องธุรกิจ ต.ค.นี้ ด้านกลุ่มโครงข่ายเล็งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานร่วม อสมท.แย้มค่าบริการช่องทั่วไป 2.5 ล้านต่อเดือน กรมประชาฯ เปิดแผนลงทุนโครงข่ายชุมชน 3 พันล้านบาท
• "กิตติรัตน์"ห่วงการเมืองฉุดเศรษฐกิจ ต้องชะลอ"โครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน-โครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน" ด้านส.อ.ท.ห่วงกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะบีโอไอเผยคำขอครึ่งปีแรกมูลค่าเพิ่ม 47% มั่นใจตามเป้า 1 ล้านล้านในปีนี้ เม็ดเงินจากญี่ปุ่นลงทุนโดยตรงมากที่สุด
• "สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย"คลอดแผนตรวจสอบข้าว 800 ยี่ห้อ มั่นใจข้าวสารบรรจุถุงไทยปลอดภัยเดิมพัน 20 ล้านบาท เสียชีวิตจากสารเมทิลโบไมด์ตกค้างจากการบริโภคข้าว เผยเก็บข้าว"โคโค่"ออกจากตลาดได้ 29 ถุงจาก 3 พันถุง ด้าน"นิพนธ์"ชี้รัฐตกหลุมระบายข้าว เตือนอย่าหวังพึ่งขายข้าวจีทูจีชี้ตลาดเล็กเพียง 3-4 ล้านตันต่อปี แนะเลิกโครงการจำนำคืนระบบการขายข้าวให้เอกชน"พาณิชย์"บีบโรงสีลดค่าสีแปรเหลือ 400 บาทต่อวัน
• อุตฯเผย AEC โอกาสทองของไทยดันพื้นที่เชิงอุตสาหกรรมโตพุ่ง คาดปีนี้เพิ่มได้อีก 3,000 ไร่ เผยไทยมีความพร้อมขึ้นเป็น"ศูนย์กลาง"ภูมิภาคอาเซียน แต่ต้องเร่งปรับตัวให้ทัน ก่อนโดนสิงคโปร์ชิงความได้เปรียบ หนุนจัดโซนนิ่ง-คลัสเตอร์สอดคล้องซัพพลายเชน เพิ่มขีดแข่งขัน

*หุ้นเด่นวันนี้

• NOK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท จากประมาณการกำไร 1H56 ที่ 660 ล้านบาท คิดเป็น 45% ของคาดการณ์ทั้งปี 56 และมีแนวโน้มผลกำไรเร่งตัวขึ้นอีกใน 2H56 จึงคงประมาณการกำไรปีนี้ที่ 1.4 พันล้านบาท เติบโต 189% YoY ปัจจุบันซื้อขายที่ PER13F 11.1x และ 7.7x ในปีถัดไป และคาดผลตอบแทนเงินปันผลน่าพอใจ 4.5% ปีนี้
• DELTA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับเป้าหมายเพิ่มเป็น 51 บาท จาก 46 บาท หากไม่รวมกำไรพิเศษคาดกำไรปกติใน 2Q13 +3% Q-Q, +48% Y-Y ดีกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดว่าลดลง Q-Q ถือเป็นกำไรแข็งแกร่งจากทั้งยอดขายเพิ่มและค่าใช้จ่ายลดลง แนวโน้มกำไร 3Q13 ยิ่งดีขึ้นช่วง High season ขณะที่เศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรปเริ่มฟื้น และบริษัทเริ่มผลิต Switching supply สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงในยุโรป ปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้น 9% เป็น 4,862 ล้านบาท (+16% Y-Y)
• CK(เคจีไอ)"ซื้อ"เป้าพื้นฐาน 37 บาท คาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 2 จะพลิกเป็นกำไร 92 ล้านบาท (จากขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/56 และไตรมาส 2/55) และคาดจะบันทึกกำไรพิเศษจากการ IPO หุ้น CKP ราว 300-400 ล้านบาทในไตรมาส 3 Backlog ปัจจุบัน 1.1 แสนล้านบาท (เพียงพอไป 3-6 ปี)