สำหรับเงินลงบทุนในปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้ต่ำกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ที่ 125 ล้านบาท โดยเบื้องต้นคาดว่าใช้เพียง 86 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนในการเปิดสาขาในบางแห่งลดลงต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ในส่วนเงินที่เหลือบริษัทยังไม่มีแผนนำไปลงทุนในส่วนอื่น
นพ.สุวิน กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้มีการเปิดร้านภายใต้แบรนด์ ใหม่ชื่อว่า “บิวตี้ มาร์เก็ต"แล้ว 1 สาขา อยู่ที่ห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ โดยช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดร้านบิวตี้ มาร์เก็ต เพื่มอีก 2 สาขาภายในปีนี้ รวมเป็น 3 สาขาใหม่ตามแผนงาน โดยใช้เงินลงทุน 7 ล้านบาทต่อสาขา
“ช่วงแรกมาร์จิ้นของร้านบิ้วตี้ มาร์เก็ตก็ยังไม่สูงมาก เนื่องจากเป็นสินค้า General Brand ค่อนข้างเยอะ แต่ต่อไปเราจะเพิ่ม Exclusive Brand และ Private Brand เพื่อดันมาร์จิ้นให้สูงขึ้น แต่ก็ไม่หวังว่ามาร์จิ้นของบิ้วตี มาร์เก็ต จะมากเท่ากับบิวตี้ บัฟเฟ่ต์ และบิวตี้คอตเทล เพียงแต่เรามองว่าเป็นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอีก 1 ช่องทาง"นพ.สุวิน กล่าว
ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศนั้น บริษัทเตรียมเปิด 2 สาขาในเวียดนามภายในต้นไตรมาส 4/56 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและตกแต่งหน้าร้านและได้เตรียมนำสินค้าเข้าไปจัดวาง ขณะที่สาขาที่ 2 ในกัมพูชา อยู่ระหว่างการพิจาณาข้อสรุปการลงทุน หลังจากมีทำเลแล้ว และสาขาที่ลาวคาดว่าจะเปิดได้ภายในปลายปีนี้ พร้อมกับคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ของลาว ด้านการตั้งสาขาในพม่าได้ทำเลที่เมืองร่างกุ้ง อยู่ระหว่างการตกแต่งหน้าร้าน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเปิดได้ทันภายในปลายปีนี้หรือไม่
นพ.สุวิน กล่าวว่า บริษัทจะเน้นกลุ่มลูกค้าจากจีนให้มากขึ้น โดยเบื้องต้นได้มีการเจรจากับทางคิงส์พาวเวอร์เพื่อนำสินค้าของบริษัทเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าปลอดภาษี เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นด้วย