หลักเกณฑ์ใหม่ของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants — DW) จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ส.ค. นี้ โดยได้ขยายสินทรัพย์อ้างอิงจากหุ้นในกลุ่มดัชนี SET50 เป็นหุ้นในกลุ่มดัชนี SET100 ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมด รวมถึง ETF ทั้งนี้ หุ้นอ้างอิงที่เป็นหุ้น SET100 ลำดับที่ 51 — 100 นั้น จะต้องมีมูลค่าตามราคาตลาดเฉลี่ยแต่ละไตรมาสตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทขึ้นไปติดต่อกัน 4 ไตรมาสล่าสุด โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหุ้นที่ผ่านเกณฑ์นี้ในทุก ไตรมาส ไม่เกินวันทำการที่ 5 ของไตรมาส เพื่อให้ผู้ออก DW ใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาสำหรับออก DW และผู้ลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน
ในรอบนี้มีหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 29 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV), บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA), บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) (AP), บมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH), บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ(BECL), บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND), บมจ. ไดนาสตี้ เซรามิค (DCC), บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO), บมจ. เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ), บมจ.อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ (ITD), บมจ. แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN), บมจ.เมเจอร์ซินีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR), บมจ.เอ็ม บี เค (MBK),
บมจ. อสมท (MCOT), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH), บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA), บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC), บมจ. แสนสิริ (SIRI), บมจ. ศุภาลัย(SPALI), บมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI), บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA), บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนตรัคชั่น (STEC), บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI), บมจ. ไทยคม (THCOM), บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE), บลจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO), บมจ. ทีพีไอโพลีน (TPIPL), บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) และ บมจ. น้ำมันพืชไทย (TVO)
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับหุ้น 50 หลักทรัพย์ในดัชนี SET50 แล้ว จะมีหุ้นอ้างอิงสำหรับ DW รวม 79 หลักทรัพย์
สำหรับการปรับปรุง DW ในรอบนี้ น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุน โดยเริ่มจากการขยายชื่อย่อ DW เป็น 12 ตัวอักษร ซึ่งได้เริ่มใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา และการเพิ่มสินทรัพย์อ้างอิงซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป ส่วนการลดระยะเวลาการรับจดทะเบียน DW เป็นไม่เกิน 3 วันทำการ คาดว่าจะพร้อมให้บริการเมื่อข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน ก.ล.ต. ออกมารองรับแล้ว
“ในรอบครึ่งแรกของปีนี้ มีจำนวน DW ออกใหม่รวม 407 รุ่นจากผู้ออก 11 ราย มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 109,000 ล้านบาท คิดเป็น 1.54% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขาย DW สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเป็นปีแรกของการออก DW ที่มีเพียง 3 หลักทรัพย์ และมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายเพียง 0.02% ของทั้งตลาด" นางเกศรา กล่าว