ขณะที่เมื่อ 10.19 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,459.40 จุด ลดลง 17.31 จุด(-1.17%)
เช้านี้ หนังสือพิมพ์ ระบุว่ากลุ่ม ING มีภาระต้องต้องชำระคืนหนี้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก่อนปลายปี 56 ล่าสุดตั้ง"โกลแมนแซคส์"และ"เจพี มอร์แกน"เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อเปิดประมูลขายหุ้นแบงก์ TMB ที่ถืออยู่ 31% ภายในเดือนส.ค.-ก.ย.56 โดยมี"ซูมิโตโมแบงก์"ขอร่วมประมูลซื้อหุ้น TMB ด้วยหลังรัฐบาลญี่ปุ่นหนุนภาคเอกชนออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้สถาบันการเงินต่างชาติที่สนใจซื้อหุ้น TMB จากลุ่ม ING เป็น 4 ราย โดยรวมถึงเมย์แบงก์, ซีไอเอ็มบี และแบงก์เกาหลีด้วย
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์แนะ"เก็งกำไร"หุ้น ธนาคารทหารไทย(TMB) หลังจากที่เป็นข่าวอีกครั้งว่า ING Group แต่งตั้ง Goldman และ JP Morgan เป็นที่ปรึกษาการเงินในการขายหุ้น TMB ที่ถืออยู่ 31% ในเดือนส.ค.หรืออย่างช้า ก.ย.นี้ พร้อมมองราคาในการซื้อขายที่เป็นไปได้คือ 2.60-2.70 บาท
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)คาดว่ากระแสข่าวเรื่องการมีพันธมิตรใหม่ของ TMB จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นเป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ปัจจุบันกลุ่ม ING Bank N.V. ถือหุ้นโดยตรงใน TMB 25.16% และถือผ่าน NVDR อีกส่วนหนึ่ง ส่วนกระทรวงการคลังถือหุ้น TMB 26.06% และกำลังรอขายหุ้น TMB เช่นกัน ซึ่งตามข่าวหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 15 ก.ค.56 ระบุว่ากระทรวงการคลังมีต้นทุนหุ้น TMB ที่ประมาณ 3.8 บาทต่อหุ้น
ในเบื้องต้นประเมินว่าราคาในการเข้าซื้อขายหุ้น TMB รอบนี้น่าจะเทียบเท่ากับ P/BV ระดับประมาณ 2.0-2.5 เท่า (การขายหุ้น BAY ของกลุ่ม GE ให้กับ BTMU อิงกับ P/BV ที่ 2.0 เท่า) ณ สิ้นมิ.ย.56 Book Value per Share ของ TMB เท่ากับ 1.33 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะได้ราคาซื้อขาย TMB ดังนี้ หากคิด P/BV ที่ 2.00-2.50 เท่า ราคาซื้อขาย TMB จะอยู่ที่ 2.66-3.33 บาท/หุ้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าดีลซื้อขายหุ้น TMB น่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง และยังไม่แน่ชัดว่าในที่สุดแล้วพันธมิตรใหม่ของ TMB จะเป็นรายใดรายหนึ่งที่ระบุไว้ตามข่าวหรือไม่ รวมทั้งต้องดูว่าสัดส่วนในการเข้าซื้อหุ้น TMB ของพันธมิตรใหม่ด้วย โดยถ้าพันธมิตรใหม่ถือหุ้น TMB ไม่เกิน 50% ก็ไม่ต้องทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์จากผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมด (ตามเกณฑ์ คือ ถือหุ้นเกิน 25% แต่ไม่เกิน 50% ทำเทนเดอร์ฯเป็นบางส่วนได้ แต่ถ้าถือเกิน 50% ต้องทำเทนเดอร์ฯ ทั้งหมด ทั้งนี้อาจมีข้อยกเว้นเป็นบางกรณี เช่น สัดส่วนถือหุ้นไม่เกินข้อกำหนดแต่มีอำนาจบริหารก็อาจจะต้องทำเทนเดอร์ฯทั้งหมด หรือเข้าไปถือหุ้นเกิน 50% จากการปรับโครงสร้างหนี้ก็อาจไม่ต้องทำเทนเดอร์ฯ เป็นต้น)
สำหรับวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน มีความเห็นในเชิงบวกกับแนวโน้มผลประกอบการของธนาคาร โดยประเมินว่าการปรับโครงสร้างอย่างจริงจังทั้งด้านงบดุลและการดำเนินงาน ส่งผลให้ปัจจัยพื้นฐานของ TMB อยู่ในจุดที่พร้อมต่อการเติบโตในอนาคต โดยปัจจุบัน TMB มีสถานะที่มั่นคงทั้งด้านฐานเงินกองทุนและแหล่งเงินทุน เมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์รายอื่น ในด้านการตั้งสำรองค่าเผื่อฯ ในไตรมาส 2/56 ธนาคารได้ตั้งสำรองสูงถึง 4.1 พันล้านบาท ทำให้ NPL Coverage Ratio เพิ่มเป็น 132% ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ทำให้ความกังวลเรื่องนี้หมดไป จึงแนะนำ"ซื้อ"TMB ราคาเป้าหมายเท่ากับ 2.90 บาท