ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 290,552 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 29, 2013 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (23 - 26 กรกฎาคม 2556) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 290,552 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 72,638 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 9% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 78% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 225,544 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 48,900 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 5,278 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 3.9 ปี) LB196A (อายุ 5.9 ปี) และ LB236A (อายุ 9.9 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 12,312 ล้านบาท 9,674 ล้านบาท และ 6,845 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB13813A (อายุ 14 วัน) CB13822C (อายุ 28 วัน) และ CB13O24B (อายุ 91 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 41,257 ล้านบาท 29,913 ล้านบาท และ 21,554 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) รุ่น IRPC147A (A-(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 877 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) รุ่น HEMRAJ231A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 323 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) รุ่น AP169A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 247 ล้านบาท

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในตราสารหนี้ระยะสั้น อายุน้อยกว่า 1 ปี ในช่วง -1 ถึง -2 Basis Point (100 Basis Point มีค่าเท่ากับ 1%) ขณะที่ตราสารช่วงอายุ 5 ปี ถึง 15 ปี Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในช่วงประมาณ +4 ถึง +14 Basis Point หลังจากในช่วงกลางสัปดาห์ที่มีการประมูลพันธบัตร รุ่น Benchmark Bond อายุ 5 และ 10 ปี แต่เนื่องจากผลการประมูลพันธบัตรใหม่ที่มีการตอบรับที่ไม่ดีนัก โดยเฉพาะพันธบัตร รุ่นอายุ 10 ปี ที่มียอดจำหน่ายเพียง 6,290 ล้านบาท จากวงเงินประมูล 10,000 ล้านบาท ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10 Basis Point แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ Yield ค่อนข้างนิ่ง และปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ สำหรับประเด็นที่น่าจับตามองยังคงอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ ว่าจะมีมาตรการหรือการส่งสัญญาณใดๆ ต่อการลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการ QE หรือไม่ และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆ ของสหรัฐฯ รวมถึง ปัจจัยทางด้านการเมืองภายในประเทศอีกด้วย

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภท (ทั้งระยะสั้น และระยะยาว) รวมกัน 16,067 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุคงเหลือมากกว่า 1 ปี) 254 ล้านบาท แต่กลับซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 16,321 ล้านบาท สำหรับนักลงทุนรายย่อย มียอด ขายสุทธิ 173 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ