อย่างไรก็ตาม ในอันดับแรกภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มทำตลาดผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ในจีนราว 3.5 พันตัน/เดือน
นายอนนต์ ศิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC กล่าวว่า หลังจากบริษัทเซ็น MOU กับซิโนเคม กรุ๊ป แล้ว โครงการแรกจะนำผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ไปเข้าไปทำตลาดในจีน เบื้องต้นคาดว่าจะมียอดขายราว 3.5 พันตัน/เดือน
ส่วนโครงการแรกที่บริษัทจะร่วมทุนกับซิโนเคม คือโครงการในอุตสาหกรมขั้นปลาย(downstream)ในการผลิต Isocyanate เนื่องจากจีนมีความต้องการค่อนข้างสูง เพราะสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยโครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีของบริษัทร่วมทุนกับฝรั่งเศส Perstorp Holding เข้าไปใช้ในการผลิตดังกล่าว คาดว่าจะสรุปวงเงินลงทุนและปริมาณการผลิต รวมถึงสถานที่ตั้งโรงงานได้ภายในสิ้นปี 56 และจะจัดตั้งโรงงานได้ภายในปี 57
นอกจากนั้น ในส่วนของธุรกิจ upstream ทางซิโนเคมก็ได้เปิดโอกาสให้ทำการศึกษาเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน เนื่องจากขณะนี้ซิโนเคมีโครงการจัดตั้งโรงกลั่นน้ำมัน, โรงแครกเกอร์ และโรงอะโรเมติกที่เมืองเฉิงโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางของธุรกิจปิโตรเคมีของจีน มีกำลังการผลิตโรงกลั่นอยู่ที่ 2 แสนบาร์เรล/วัน โรงแครกเกอร์ 1 ล้านตัน/ปี และโรงอะโรเมติกส์ 8 แสนตัน/ปี โครงการทั้งหมดจะแล้วเสร็จปลายปี 56
"ทางซิโนเคมเปิดโอกาสให้บริษัทศึกษาธุรกิจ upsrteam เพื่อต่อยอดธุรกิจร่วมกัน หรือจะเป็นการขยายเฟส 2 เฟส 3 หลังจากลงนามวันนี้น่าจะมีโครงการอีกมากมายในอนาคต เนื่องจากความต้องการด้านผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในจีนยังสูง"นายอนนต์ กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังมองโอกาสในการใช้โครงการร่วมทุนในจีนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศด้วย ซึ่งซิโนเคมีความแข็งแกร่งด้านการตลาดและโลจิสติส์ ขณะที่ PTTGC มีความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์และการผลิต สุดท้ายก็จะ win-win ทั้งคู่ ส่วนจะดึงซิโนเคมไปลงทุนในประเทศอื่น ๆ อย่างอินโดนีเซียหรือไม่ ยังไม่ได้หารือเรื่องนี้