สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB15DA และ LB236A (รุ่นอายุ 3.9 ปี, 2.4 ปี และ 9.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 4,030 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A) มูลค่า 324.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (RG13DA) มูลค่า 241.5 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK16DA) มูลค่า 208.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 774.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,859 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 904 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,893 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.51% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.48% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร โดยเปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bps. ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงจับตาผลการประชุม FOMC ของสหรัฐฯ ว่าจะมีมาตรการหรือการส่งสัญญาณใดๆ ออกมาหรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดขายในพันธบัตรระยะสั้น ยอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,893 ล้านบาท