(เพิ่มเติม) MATCH พุ่ง 10.27% ผู้บริหารเล็งประมูลทีวีดิจิตอลช่อง SD วาไรตี้หนุนรายได้โตกระโดด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 30, 2013 13:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น MATCH พุ่ง 10.27% มาอยู่ที่ 3.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 122.92 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.49 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.06 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.00 บาท

นายสมบุญ ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น(MATCH)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" บริษัทเตรียมเข้าประมูลทีวีดิจิตอลช่อง SD วาไรตี้ 1 ช่อง โดยจะเข้าประมูลด้วยตัวเอง หลังจากได้พูดคุยกับทางผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท บีบีทีวี โปรดัคชันส์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งยืนยันว่าจะไม่เข้าประมูลในช่องนี้

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 1.2-1.5 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการกู้ผ่านธนาคารประมาณ 500-600 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากเงินสดที่ทางบริษัทฯมีอยู่กว่า 700-800 ล้านบาท ทั้งนี้เงินทุนดังกล่าวจะนำไปเพื่อใช้ในการประมูล การทำระบบและซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการผลิตคอนเทนท์

"เรามีความพร้อมในเรื่องของเงินทุน เพราะปัจจุบันเราไม่มีหนี้เลย เรายังมีเงินสดอยู่ในมืออีก และเราทำเรื่องกู้ไปแค่ 500-600 ล้าน ซึ่งจริงๆแล้วเรายังมีวงเงินในการกู้ได้ถึง 2-3 พันล้านบาท เราจึงมีความพร้อมอย่างมากในเรื่องของเงินทุน"นายสมบุญ กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทมีความพร้อมในเรื่องของคอนเทนท์ต่างๆ ที่สามารถผลิตรายการและมีรายการในสต็อกอีกมากอยู่ในมือที่ยังไม่ได้มีการทำไปเผยแพร่ป จึงมั่นใจที่จะนำมาออกกาศได้ตามกำหนดเวลาที่ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)กำหนดให้หลังจากการประมูลเสร็จสิ้นจะให้มีการออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 5 ธ.ค.56

นายสมบุญ กล่าวว่า หากสามารถที่จะประมูล ช่อง SD วาไรตี้ จำนวน 1 ช่อง จะทำให้รายได้ของบริษัทฯเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อไปได้อีก จากการที่บริษัทฯเป็นผู้ผลิตครบวงจร ตั้งแต่เริ่มขบวนการตั้งแต่ผลิตรายการไปจนถึงการออกอากาศในช่องรายการที่เป็นของบริษัทฯเอง

"ปัจจุบันเราก็ได้มีการประเมิณอยู่ว่าตัวเลขจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเราก็มีความมั่นใจว่าหากเราประมูลได้ ก็จะทำให้รายได้ของเราเติบโตได้อย่างมหาศาล ซึ่งเราก็มีความพร้อมในทุกๆด้าน และเรามั่นใจว่าอย่างยังไงเราก็ต้องประมูลได้แน่นอน"นายสมบุญ กล่าว

ปัจจุบัน รายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจหลัก คือธุรกิจการให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ยังมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง และยังมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย 20% หรือมีรายได้ประมาณ 700 ล้านบาทในปีนี้ จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท

และหลังจากที่มีการเริ่มก่อสร้างสตูดิโอครบวงจรภายในปลายปี 56 เพื่อให้เสร็จทันการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58 โดยจะเป็นสตูดิโอครบวงจรแห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียน จะทำให้รายได้ของบริษัทฯมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ