ยอดขายช่วงครึ่งแรกของปีนี้เติบโตมาก หลังจากโรงงานผลิตของบริษัทเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลัง ประกอบกับ ได้รับอานิสงส์จากโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้ตลาดยางรถยนต์ทดแทนในประเภทรถขนาดเล็กมีการเติบโตมากกว่ารถกระบะ โดยเฉพาะรถยนต์ประเภทอีโคคาร์
สำหรับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงไม่กระทบกับยอดขายยางรถยนต์ของบริษัท แนวโน้มตลาดยางรถยนต์น่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นตามปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทยังได้รับออร์เดอร์จากผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในขณะนี้จะมีการปรับลดประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศลง แต่ก็ยังไม่เห็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจของบริษัท
อย่างไรก็ตาม มองว่าการแข่งขันในตลาดยางรถยนต์ครึ่งปีหลังจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีผู้ผลิตจากต่างประเทศเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย และเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดกับบริษัท แต่อีกมุมหนึ่งก็มองว่าเป็นผลดีต่อผู้บริโภค เนื่องจากแต่ละบริษัทจะต้องพัฒนานวัตกรรมมาแข่งขันกันทำให้ตลาดมีความคึกคัก
บริษัทยังเดินหน้าการขยายร้านค้าปีละ 10 สาขา ปัจจุบันมีสาขาแล้ว 45 สาขา แบ่งเป็น กู๊ดเยียร์ อีเกิล สโตร์ 8 สาขา, กู๊ดเยียร์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ 7 สาขา และ กู๊ดเยียร์ ออโต้ แคร์ 30 สาขา ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจะเน้นการขยายสาขากู๊ดเยียร์ ออโต้ แคร์ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาใช้บริการอย่างครบวงจร พร้อมทั้งปรับรูปแบบของกู๊ดเยียร์ อีเกิล สโตร์ เป็นกู๊ดเยียร์ ออโต้ แคร์ ซึ่งเป็นกลยุทธสำคัญในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายยาง
นอกจากนั้น บริษัทยังมีดีลเลอร์จำหน่ายยางรถยนต์กู้ดเยียร์ 300 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศนั้น ขณะนี้มีการส่งสินค้าไปจำหน่ายในอาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ทั้งในรูปแบบการส่งออกสินค้ายางรถยนต์โดยตรง และการขายสินค้าผ่าน OEM โดยทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ตลาดยังมีการเติบโตที่ดี