อีกทั้งในอนาคตจะได้โครงการเมกะโปรเจ็คต์ภาครัฐหนุน ทั้งรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-ชลบุรี-ระยอง, มอเตอร์เวย์ สายชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด และอาเซียนไฮเวย์ สาย R10 เส้นทางเลียบชายฝั่งด้านใต้ (ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม)
"เชื่อมั่นว่าการเปิด AEC จะเป็นตัวเร่งปัจจัยบวกในการสร้างโอกาสการลงทุนจากต่างชาติและภาคเอกชนที่จะทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคโตอย่างก้าวกระโดด" น.ส.วัลยา กล่าว
น.ส.วัลยา กล่าววว่า CPN ยังคงมีแผนขยายศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่องด้วยงบลงทุนปีละ 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดศูนย์การค้าใหม่ราวปีละ 3-5 แห่ง โดยในปีนี้คาดว่าจะเปิดศูนย์การค้าแห่งอีก 1 แห่ง และบริษัทยังเตรียมเปิดสาขาแรกในต่างประเทศ 1 แห่ง หลังจากที่เพิ่งได้ข้อสรุปการลงทุนไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็ว ๆ นี้
"ต่างประเทศสาขาแรกเซ็นสัญญาไปแล้ว" น.ส.วัลยา กล่าว
น.ส.วัลยา กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกที่จะเปิดให้ควบคุมก่อน AEC เปิด โดยจะเปิดศูนย์การค้าทั่วประเทศรวมถึงหัวเมืองใหญ่ ซึ่งตอนนี้เกือบควบคุมแล้ว โดยมีที่ จ.เชียงราย รองรับลูกค้าจีน และพม่า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาดีมาก การคมนาคมก็สะดวกขึ้น ซึ่งในเชียงรายยังมีพื้นที่เหลืออยู่อีก 20 กว่าไร่พร้อมขยายพื้นที่ศูนย์การค้าได้
ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือก็มีเซ็นทรัล พลาซ่า อุดรธานี รองรับกำลังซื้อจากลาว และเซ็นทรัล พลาซ่า อุบลราชธานี รองรับลูกค้าเวียดนามและลาว และภาคใต้ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้จะเปิดเซ็นทรัล เฟสติวัลที่ หาดใหญ่ จ.สงขลา รองรับลูกค้าจากมาเลเซีย
"การวางแผนเปิดศูนย์การค้าของ CPN มองการลงทุนที่ต่อเนื่อง ไม่ได้มองว่าเศรษฐกิจชะลอหรือการเมืองแทรกแล้วจะชะลอการลงทุน แต่เราเป็นบริษัทที่มั่นใจว่าจะพัฒนาไปพร้อมกับประเทศไทย"น.ส.วัลยา กล่าว
พร้อมกันนั้น บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมในปี 56 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ทั้งจากสาขาเดิมและสาขาใหม่ โดยผู้เข้าใช้บริการศูนย์การค้าในเครือเติบโต 5-10% และยอดขายสาขาเดิมโตมากกว่า 5% ขณะที่ครึ่งปีหลังธุรกิจค้าปลีกนั้น ภาพรวมเชื่อว่ายังเติบโตไปพร้อมกับนโยบายภาครัฐที่กระตุ้นการลงทุนต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังตั้งงบการตลาดไว้สูงกว่าครึ่งแรก แต่ถึงแม้โครงการ 2 ล้านล้านบาทอาจจะยังเดินหน้าไม่ได้ แต่เชื่อว่ากำลังซื้อในประเทศยังอยู่ในระดับที่ดี และคงมีการกระตุ้นการใช้จ่ายมากขึ้น
ส่วนปัญหาน้ำมันรั่วที่จังหวัดระยอง มองเป็นแค่ผลกระทบช่วงสั้น เชื่อว่า PTTGC จะดูแลควบคุมได้และในระยะยาวคงมีแผนรองรับ เพราะเป็นจังหวัดที่ทำรายได้สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และเป็นอันดับ 1 ของภาคตะวันออก เป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของของประเทศ ซึ่งเรื่องสิ่งแวดล้อมอาจต้องมีการวางแผนลงทุนระยะยาว ขณะที่การลงทุนจากต่างประเทศในอุตฯต่างๆ ยังโตต่อเนื่อง