"ผมได้ให้นโยบายสำคัญในเรื่องการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ปะการัง โขดหินริมหาด พร้อมทั้งให้ตั้งหน่วยเฝ้าระวัง โดยอาจร่วมมือกับสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญ"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ได้แสดงความเป็นห่วงด้านผลกระทบการท่องเที่ยว ซึ่งในความเป็นจริงพื้นที่เกิดปัญหาเป็นส่วนน้อยของเกาะเสม็ด ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่อีกกว่า 90% นักท่องเที่ยวยังสามารถมาชมความสวยงามได้เหมือนเดิม ประการสำคัญ ได้ให้ PTTGC ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น และป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า การขจัดคราบน้ำมันน่าจะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากพื้นที่เกิดปัญหามีเพียง 5-6 % ของพื้นที่เกาะเท่านั้น จากการสำรวจ พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังอยู่ ตอนนี้เราประกาศให้พื้นที่ที่เกิดปัญหาเป็นเขตแจ้งเตือนภัยเท่านั้น หลังจากนี้จะเป็นระดมความร่วมมือจากทุกหน่วยงานเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือแก้ไขปัญหาจากเหตุการณ์ที่เราไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ จะต้องฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืน และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีก PTTGC ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งอยากฝากให้ช่วยกันให้ข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ พร้อมเยียวยาผลกระทบและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของอ่าวพร้าวให้กลับคืนอย่างเร็วที่สุด
นายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTGC กล่าวถึงแผนฟื้นฟูระยะยาวว่า จะร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษในการจัดทำแผนงานฟื้นฟูด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเล บริษัทฯ ตั้งใจฟื้นฟูสภาพให้กลับคืนเหมือนเดิม โดยเร็วที่สุด