ทั้งนี้ งานของบริษัทในการเป็นที่ปรึกษา และออกแบบ จะมีส่วนแบ่งจากมูลค่าโครงการประมาณ 10-15% ของมูลค่าโครงการ โดยจะเข้ามาเป็นรายได้ของบริษัท ซึ่งงานในส่วนของบริษัทมีต้นทุนอยู่ในระดับต่ำมากๆ
“รายได้ที่เข้ามา 10-15% เราจะคิดเป็นกำไรเกือบทั้งหมดเพราะในการออกแบบและการเป็นที่ปรึกษานั้นมีต้นทุนที่ต่ำมาก"นายรัฐชัย กล่าว
นายรัฐชัย กล่าวว่า บริษัทจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในงานก่อสร้างโครงการทั้ง 3 เนื่องจากบริษัทไม่ต้องการรับความเสี่ยง เพราะเป็นโครงการที่อยู่ในต่างประเทศ และปัจจุบันมองว่าทางบริษัทฯยังไม่มีศักยภาพพอที่จะเข้าไปเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเอง ซึ่งการก่อสร้างโครงการจะเป็นหน้าที่ของพันธมิตรจากประเทศจีนที่มีความชำนาญในการก่อสร้างโซล่าฟาร์ม
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองว่าการเป็นพันธมิตรกับ 3 กลุ่มดังกล่าวในโครงการส่วนแรก จะเป็นโครงการตัวอย่างสำหรับความร่วมมือในโครงการอื่น ๆ หาก 3 โครงการแรกประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี ก็จะมีโอกาสที่ทาง รัฐบาลของประเทศฟิลิปปินส์จะมีงานต่อๆไป
“3โครงการนี้เป็นแค่ 3 โครงการแรกที่ รัฐบาลของประเทศฟิลิปปินส์ เห็นสักยภาพว่าจะทำได้ ถ้าเราทำแล้วออกมาสำเร็จได้ด้วยดีก็จะมีงานต่อไปอีก"นายรัฐชัย กล่าว
นายรัฐชัย กล่าวอีกว่า บริษัทมองรายได้ในปีนี้อาจจะทำได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 1 พันล้านบาท และผลประกอบการมีโอกาสพลิกเป็นกำไร จากปีก่อนที่ขาดทุน 332 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเลือกรับงานที่มีอัตรากำไรสูง ประกอบกับ จะรับรู้รายได้งาน Oil &Gas ที่จะทำให้บริษัทมีกำไรดีขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 3/56 และไตรมาส 4/56 เป็นช่วง high season ของบริษัทที่จะมีการรับรู้รายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก
“จากการที่เราได้มีการรับงานที่มีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น และจะมีรายได้เข้ามาเป็นจำนวนมากในไตรมาส 3-4 ก็คาดว่าจะทำให้รายได้ของเราในปีนี้อาจจะเกิน 1 พันล้านที่เป็นเป้าหมายของเราได้ และเราหวังว่าปีนี้เราจะกลับมาพลิกเป็นกำไรได้"นายรัฐชัย กล่าว