ปัจจุบัน บริษัทฯอยู่ระหว่างการจัดทำต้นทุนต่างๆไปตามปกติงคาดว่าจะเข้าประมูลในส่วนของรถปรับอากาศประมาณ 1-2 เขต จำนวรวมประมาณกว่า 500 คัน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีศักยภาพเพียงพอที่จะรับงานจำนวนมากที่สุดคือไม่เกิน 700 คัน โดยหากได้ทั้งหมดก็จะมีมูลค่างานประมาณ 3,150 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่างานในมือ(Backlog)ให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และเป็นส่วนรองรับการสร้างรายได้ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า
“การเข้าประมูลในครั้งนี้เราเชื่อว่าได้แน่ๆ น่าจะ 1 เขต ประมาณ 400 คัน อีกเขตนึงมีจำนวนไม่มากเราก็อาจจะได้มา รวม 2 เขตก็น่าจะประมาณ 500 กว่าคัน แต่ที่เราอยากจะได้มากที่สุดก็ไม่น่าจะเกิน 700 คัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานะการในการประมูล"นายสุรเดช กล่าว
ล่าสุด บริษัทยังได้รับงานจากเทสโก้โลตัสเพิ่มเข้ามาอีก 100 ล้านบาท หลังจากเพิ่งได้รับงานเพิ่มเติมจากบริษัท ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DHL และอยู่ระหว่างทยอยส่งมอบงาน ทำให้ Backlog ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 577 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้มีอยู่ประมาณ 477 ล้านบาทที่จะสามารถรับรู้ได้ในปีนี้เกือบทั้งหมด และจะทยอยรับรู้ฯ อีกส่วนหนึ่งในปี 57 ประมาณ 40 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากงานที่เพิ่มขึ้นและสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะมีการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ 20%