ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการลงทุนดังกล่าวข้างต้นในปี 56 ประมาณ 3 ล้านบาท และในปี 57 อยู่ที่ 13 ล้านบาท นอกจากนี้ ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายว่าภายในปี 60 รายได้จากการลงทุนจะอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม
“เป็นปีแรกที่บริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุน ซึ่งบริษัทมองเห็นโอกาสในธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากบริษัทมีความรู้ ความเชี่ยวชาญธุรกิจเกี่ยวกับน้ำอยู่แล้ว ขณะเดียวกันอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ของงานลงทุนจะสูงกว่างานก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังเป็นการลดการพึ่งพิงรายได้จากการก่อสร้าง ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท"นายสลิบ กล่าว
นอกจากการลงทุนโครงการ TPC แล้ว ล่าสุดบริษัทยังได้ทำสัญญาซื้อขายน้ำกับ 6 เทศบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ระยะเวลาสัญญา 30 ปี ตอนนี้งานอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนโครงการผลิตน้ำประปาดังกล่าวในครึ่งปีหลังของปี 57 ประมาณ 36 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงยื่นประมูลงานทั้งภาครัฐ และเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานในประเทศไทย บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานของหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง ซึ่งมีมูลค่างานประมาณ 1,000 ล้านบาท รวมไปถึงงานระบบบำบัดน้ำเสียที่คาดว่าจะได้มีการลงนามเซ็นสัญญาในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า
ขณะที่งานในต่างประเทศ บริษัทยังคงเร่งหางานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศพม่า ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการระบบบำบัดน้ำเสียของนิคมอุตสาหกรรม งบลงทุนจำนวน 350 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาได้ในปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการรอผลการประมูลโครงการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดในประเทศอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่ารายได้ปี 56 จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และตั้งเป้ารายได้ของบริษัท 3 ปีข้างหน้า (57-59) น่าจะมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20% จากการที่บริษัทรุกงานทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในมือประมาณ 14,600 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 53-55 ตามลำดับ รายได้รวม 295, 691 และ 882 ล้านบาท กำไรสุทธิ 18.84, 47.91 และ 56.49 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity ratio หรือD/E) อยู่ที่ 1.46, 1.04 และ 0.94 ตามลำดับ