บล.เคทีบี(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯคงมุมมองบวกต่อ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC)เชื่อว่าผลกระทบจากเรื่องท่อน้ำมันดิบรั่วในทะเลต่อผลประกอบการจะไม่มากเท่าที่ตลาดกังวล มองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงค่อนข้างมากราว 10% จากราคาปิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.56 ที่ 74 บาท
จากการที่ PTTGC มีการทำประกันภัยที่ครอบคลุมในด้านต่างๆ จึงมองว่าผลกระทบซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงในปัจจุบันเมื่อลดผลกระทบด้วยการชดเชยจากประกันภัยจะกระทบผลประกอบการในระดับต่ำ ประกอบกับ กำไรสุทธิที่ระดับสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี จึงเชื่อว่าความเสียหายจะอยู่ในระดับที่จัดการได้
อย่างไรก็ดี ด้วยมุมมองที่อนุรักษ์นิยมหากมูลค่าการฟ้องร้องอยู่ในระดับที่สูง ยังมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงปัจจัยลบระยะสั้น สำหรับมุมมองในระยะสั้น คาดว่าราคาหุ้นจะถูกกดดันจากความไม่ชัดเจนของการถูกฟ้องร้องและการกำจัดคราบน้ำมันบนอ่าวพร้าวยังไม่แล้วเสร็จ จึงแนะนำ"ทยอยซื้อ"ด้วยราคาเป้าหมาย 87.48 บาท(PE อ้างอิง 12 เท่า)
แม้ว่าการขนถ่ายน้ำมันจะต้องหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม PTTGC มีน้ำมันดิบสำรองราว 10 วันในการดำเนินงานโรงกลั่นและปัจจุบันท่อเส้นที่รั่วได้มีการนำของใหม่มาแทนที่ เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของโรงกลั่น โดยน้ำมันที่สูญเสียไปเชื่อว่าจะอยู่ในวงเงินประกัน Marine Cargo(วงเงิน 330 ล้านเหรียญสหรัฐ)
สำหรับความเสียหายด้านทรัพย์สิน PTTGC มองว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ โดยคาดว่าจะต่ำกว่าค่า Deductible ของ Property Damage (Deductible 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) มองว่าค่ากำจัดและการฟื้นฟูยังอยู่ในวงเงินประกันภัยในส่วนของ Third Party Liability(50 ล้านเหรียญสหรัฐ)
อย่างไรก็ตาม ยังกังวลต่อประเด็นการฟ้องร้องและค่าเยียวยาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลจากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนที่อาจฟ้องร้องค่าเสียหายรวมทั้งการชดเชยกับกลุ่มประมงใน จ.ระยอง