ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกปี 56 (ม.ค.-มิ.ย.) สินเชื่อรวมขยายตัว 10.3% ส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 1.6%
"ในไตรมาส 1 ยังไม่มีตัวบ่งชี้ถึงการเสื่อมถอยของเศรษฐกิจ แต่ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจชะลอ ธนาคารต้องปรับกลยุทธ์ มุ่งเน้นคุณภาพสินเชื่อ เราให้ความสำคัญกับลูกค้า corporate ที่มีรายได้ 400 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มสัดส่วนเป็น 46% ของพอร์ต(จาก 42% ในปีก่อน) แต่สินเชื่อปีนี้การเติบโตจะลดลงจากปีก่อน แต่ก็ยังเติบโตระดับสูงที่ 20-25%" นางศศิธร กล่าว
ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ทั้งปีจะพยายามไม่ให้เกินระดับ NPL ระบบ
นางศศิธร กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารมีกลุ่มลูกค้า Retail ในสัดส่วน 33% ของพอร์ต ซึ่งในส่วนนี้ 80% เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีหลักทรัพย์หลักประกันที่มีตัวตน ราคาไม่ตก ขณะที่ไม่มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรกและก็ไม่มีธุรกิจบัตรเครดิต
สำหรับในครึ่งปีหลัง ธนาคารจะเพิ่มสาขาอีก 29 แห่ง โดยจะกระจายไปตามต่างจังหวัดในลักษณะ Micro Branch ที่จะใช้พื้นที่ของโฮมโปรเป็นหลัก ทำให้สิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 107 สาขา จากปัจจุบัน 76 สาขา และสิ้นปี 66 สาขา ในสิ้นไตรมาส 1/57 จะเพิ่มเป็น 112 สาขา อนึ่ง ปัจจุบัน LHBANK มีส่วนแบ่งตลาด อยู่ 1%
นอกจากนี้ ธนาคารมีแผนที่จะเพิ่มบริการอื่น ๆ เช่น บริการ Debit Card บริการ LHBank Speedy on Mobile และนอกจากบริการที่กล่าวมาแล้ว ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่น่าสนใจ ได้แก่ เงินฝากไม่ประจำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของธนาคาร ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.7% ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความคล่องตัวสูง เพราะสามารถเบิกถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมถึงผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำที่ตรงใจผู้ที่ต้องการออมเงินและให้ผลตอบแทนสูง ได้แก่ เงินฝากประจำ 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3% และเงินฝากประจำ 8 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.25%
*เจรจาแบงก์เอเชียเป็นพันธมิตร
นางศศิธร กล่าวว่า ขณะนี้แบงก์อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารในเอเชีย แต่เนื่องจากการที่เศรษฐกิจจีน และไทยชะลอตัวส่งผลต่อการเจรจา อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสรุปการเจรจาในการเข้าเป็นพันธมิตรของ LH BANK ในปีหน้า
"ตอนนี้เจรจางวดเข้ามาเหลือรายเดียว แต่มี 2 รายที่ให้ความสนใจ พันธมิตรจะเข้ามาช่วยทำไมโครไฟแนนซ์ เขา (พันธมิตร)ใหญ่กว่าแบงก์ไทยหลายแบงก์ เขาเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลแบงก์ การเจรจาค่อนข้างชัดเจน มีการกำหนดกรอบเวลา แต่ก็ต้อง discuss กัน ก็มีพัฒนาการดีขึ้น"นางศศิธร กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่า หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ไทยจะเป็นศูนย์กลางทางการเงินของอาเซียน หลายธนาคารต่างชาติจึงให้ความสนใจเข้ามาสร้างฐานในไทย