"พฤติกรรมลูกค้าขณะนี้เหมือนกับว่ารอจังหวะของสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่แน่นอน ก็มีเรื่องการเมืองลูกค้าก็ดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เศรษฐกิจในประเทศปัจจุบันก็ชะลอตัว อำนาจซื้อของประชาชนก็ลดลง ก็มีผลมาจากโครงการรถยนต์คันแรกด้วยส่วนหนึ่งที่ลดทอนอำนาจซื้อไป หุ้นที่ตกลงกว่า 40% ก็ลดทอนอำนาจซื้อเช่นกัน และบางคงก็นำเงินไปซื้อทองเก็บในช่วงที่ทองลงอย่างมาก ประกอบกับเรื่องการขอสินเชื่อจากแบงก์ก็ทำให้ลูกค้ากังวล บางเจ้าจากที่เคยปล่อยสินเชื่อ 100% ตอนนี่ปล่อยแค่ 80-90% ลูกค้าก็ต้องใช้เงินในการดาวน์ มากกขึ้น ทำให้ลักษณะของลูกค้าตอนนี้เป็นแบบ wait&see"นายไพโรจน์ กล่าว
นายไพโรจน์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดโครงการภายใต้แบรนด์"เดอะทรัสต์"จำนวน 7 โครงการ โดยแบ่งเป็นเป็นโครงการในกรุงเทพฯ จำนวน 5 โครงการ และโครงการในต่างจังหวัด 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7.78 พันล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ เดอะทรัสต์ คอนโด นครปฐม มูลค่าโครงการ 632 ล้านบาท เดอะทรัสต์ทาวน์ ศรีนครินทร์ มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท และเดอะทรัสต์ คอนโด อมตะ 500 ล้านบาท
ล่าสุด ในวันนี้บริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ "เดอะทรัสต์ คอนโด นครปฐม" เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรท์สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร 405 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 632 ล้านบาท โดยการเลือกพัฒนาโครงการในจังหวัดนครปฐมเนื่องจากเล็งเห็นถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีการสำรวจพบว่าเมืองนครปฐมมีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ทำเลที่ตั้งของโครงการติดถนนใหญ่และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงะยาบาล และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดนครปฐม
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้กว่า 250 ล้านบาทในการเปิดตัววันแรก โดยเปิดให้จองในวันที่ 3-4 ส.ค.56 ราคาเริ่มต้นที่ 1.09 ล้านบาท/ยูนิต