"การผลิตน้ำมันไม่มีผลกระทบ ที่ผ่านมา เรามีการสำรองน้ำมันไว้ใช้อยู่แล้ว ผมเชื่อมั่นว่ากลุ่ม ปตท.คงไม่หยุดดูแลด้านสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องมีแผนระยะยาว ทำให้อ่าวพร้าวกลับมาสวยงามกว่าเดิม เนื่องจากจังหวัดระยองเป็นบ้านของเรา เราไม่สามารถละเลยได้"นายสุรงค์ กล่าว
ขณะนี้ทางบริษัทประกันภัยได้เดินทางไปยังพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งกลุ่มโรงกลั่นอยู่ระหว่างการรอข้อสรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ หลังจากทราบแล้วก็จะวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน แล้วนำมาปรับปรุงมาตรฐานฉุกเฉินทางทะเล โดยทางกลุ่มฯเชื่อว่าก้อนน้ำมันที่รั่วไหลไปอ่าวพร้าว ที่เกาะเสม็ดน่าจะเป็นน้ำมันที่ทะลักออกจากบูม เพราะช่วงนั้นมีคลื่นลมแรงมาก
ที่ผ่านมา แต่ละโรงกลั่นก็มีมาตรฐานการปฏิบัติการทางทะเลของตนเอง โดยจะมีการซ้อมเหตุฉุกเฉินเฉพาะบริษัทเองเฉลี่ยปีละครั้ง ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ รวมสารเคมีที่ใช้ในการสลายคราบน้ำมัน ทางสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) ซึ่งมีบริษัทน้ำมันต่างๆและโรงกลั่นน้ำมันเป็นสมาชิก ได้มีการจัดเก็บไว้ที่จังหวัดระยอง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และพระโขนง กรุงเทพฯ และมีการซ้อมฉุกเฉินทางทะเลปีละครั้งด้วย