MBKET แจง Q2/56 กำไรโต 88% จากรายได้ค่านายหน้า-IB-ดอกเบี้ยเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 5, 2013 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) เปิดเผยว่า ภาพพรวมธุรกิจของบริษัทในไตรมาส 2/56 ถือได้ว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 350.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.50 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 186.10 ล้านบาท

รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 453.89 ล้านบาท จาก 472.74 ล้านบาท เป็น 926.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 96.01 เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 5,905 ล้านบาท เป็น 11,485 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจาก 25,041 ล้านบาท เป็น 50,527 ล้านบาท

ในขณะที่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 10.34 ล้านบาท จาก 85.56 ล้านบาท เป็น 75.22 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 12.09 เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทฯ ลดลงจาก 13,329 สัญญา เป็น 9,980 สัญญา ซึ่งเป็นไปตามการลดลงของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันโดยรวมของตลาดอนุพันธ์ซึ่งลดลงจาก 83,971 สัญญา เป็น 80,272 สัญญา

พร้อมกันนี้รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 104.46 ล้านบาท จาก 70.89 ล้านบาท เป็น 175.35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 147.37 เนื่องมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดทุน ส่งผลให้เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เฉลี่ยสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมียอดเงินให้กู้ยืมเฉลี่ย 5,093 ล้านบาท เป็น 12,760 ล้านบาท

ส่วนรายได้ฝ่ายวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้น 30.62 ล้านบาท จาก 10.74 ล้านบาท เป็น 41.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 285.10%

สำหรับ ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 358.11 ล้านบาท จาก 494.06 ล้านบาท เป็น 852.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.48 ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเพิ่มขึ้น 82.19 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 157.74 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่เงินวางหลักประกันของลูกค้าและเงินกู้ยืมระยะสั้น ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย ซึ่งเพิ่มขึ้น 26.45 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 53.06 และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 226.57 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84.44 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งเป็นผลให้ผลตอบแทนของเจ้าหน้าที่การตลาดเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ขณะที่ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก หรืองวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 889.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 514.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 136.85 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 375.68 ล้านบาท ทำให้ผลการดำเนินงานตามงบกำไรขาดทุนดังกล่าวแสดงผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 20

“หากประเมินภาพรวมจากปริมาณการซื้อขายต่อวันที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยวันละ 25,041 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 50,527 ล้านบาทใน 6 เดือนแรกปี 2556 ในขณะที่ตัวเลขผลการดำเนินงานในรอบเดียวกันออกมาเป็นที่น่าพอใจ หากในครึ่งปีหลังไม่มีปัจจัยเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศเข้ามา ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน ผมเชื่อว่าปี 56 จะเป็นปีที่ดีมากของ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้อย่างแน่นอน"นายมนตรี กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ