(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลงตามภูมิภาคกังวลสหรัฐชะลอ QE หลังตัวเลขศก.ดีขึ้น

ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ความกังวลเรื่องการเมืองยังคงกดดันตลาดอยู่ แต่วันนี้คงไม่มีผลมากเท่าปัจจัยจากต่างประเทศ

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่แนวรับ 1,417 จุด และแนวต้าน 1,435 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(5 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,612.13 จุด ลดลง 46.23 จุด(-0.3%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,707.14 จุด ลดลง 2.53 จุด(-0.15%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,692.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด(+0.09%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 20.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 221.07 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.16 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.65 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 2.20 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(5 ส.ค.) ที่ 1,424.31 จุด เพิ่มขึ้น 3.37 จุด(+0.24%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 390.35 ล้านบาท เมื่อ 5 ส.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(5 ส.ค.)ที่ 106.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.38 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(5 ส.ค.)ที่ 8.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.37/39 อ่อนค่าสวนทางภูมิภาค เหตุการเมืองกดดัน
• ธปท.รับห่วงสถานการณ์เมืองกระทบความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ-ลงทุน ชี้การเมืองเป็น "อุปสรรค" ด้านกกร.ถกประเมินสถานการณ์ ยอมรับหาทางออกยาก เรียกร้องให้ชุมนุมอยู่ในกรอบกฎหมาย หวังไม่เกิดความวุ่นวาย ขณะตลาดหุ้นผวาหนัก มูลค่าซื้อขายต่ำรอบ 8 เดือน โบรกฯเผยปรับรับข่าวการเมือง"เกินเหตุ" ร่วงแล้วกว่า 100 จุด ประเมินระยะยาวยังแกร่ง
• นักวิชาการแนะตั้งวอร์รูมรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินการขนถ่ายน้ำมันกลางทะเล จี้ทบทวนแผนรับมือ 5 จุดเสี่ยงในอ่าวไทย ลุยตรวจคุณภาพน้ำทะเลรอบเสม็ดอีก 23 จุด 18 เกาะรู้ผล 13 ส.ค.นี้ "พงษ์ศักดิ์" สั่งเยียวยาธุรกิจโรงแรมก่อน ขณะที่บอร์ด ปตท.สั่งเลิกใช้ท่อน้ำมันทั้งหมด ป้องกันความเสี่ยง พร้อมหามาตรการบริหารความเสี่ยงทั้งระบบ ย้ำต้องไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ทั่วโลก
• ผู้ว่า กฟผ.เปิดแผนลงทุนโรงไฟฟ้าหลัก-สายส่งช่วง 5 ปี 3.5 แสนล้าน รับการขยายตัวเศรษฐกิจ เออีซี และพลังงานหมุนเวียน เตรียมดึงโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ เข้าระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 2,000 ล้านบาท คาดสิ้นปีได้แนวทางการระดมทุนชัดเจน ยันไม่ขายหุ้นบริษัทลูก เตรียมเสนอกระทรวงพลังงานผ่อนผันกฎระเบียบลงทุนบริษัท กฟผ.อินเตอร์ฯ สร้างความคล่องตัว ก่อนเพิ่มทุนเป็น 17,000 ล้านบาท
• ปลัดกระทรวงการคลัง เผยจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในวันที่ 6 ส.ค.นี้ เพราะเศรษฐกิจในขณะนี้มีความเปราะบางจากเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า ทำให้ต้องมีการเร่งกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย
• สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เสนอผลงานทางวิชาการเรื่อง "ความเสี่ยงทางการคลังจากการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ(เอสเอฟไอ)"ว่า การดำเนินนโยบายกึ่งการคลัง โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 8 แห่ง ปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (PSA) ระหว่างปี 2543-2556 จำนวน 38 โครงการทำให้รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณมาชดเชยส่วนต่างดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเป็นเม็ดเงินกว่า 2.46 ล้านล้านบาท
• ผู้ว่าการ ธปท.ระบุเงินบาทอ่อนช่วงนี้มาจากปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศ ห่วงหากเหตุการณ์ยืดเยื้อจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และบรรยากาศการใช้จ่ายและการลงทุนต่อไปได้ ชี้ครึ่งปีหลังเงินบาทยังผันผวนต่อ แนะแบงก์กันสำรองพิเศษเพิ่มหวั่นยกเลิกคิวอี ทำต้นทุนแบงก์และภาระลูกค้าพุ่ง โดยเฉพาะธุรกรรมสินเชื่อ

*หุ้นเด่นวันนี้

• LH, QH (ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 14.80 และ 4.50 บาท ตามลำดับ จากข่าว LH-QH จะมีกำไรขายหุ้น HMPRO 5.5 หมื่นล้าน หากเสนอขายหุ้นละ 17 บาท เนื่องจากมีต้นทุนต่ำเพียง 4.74 พันล้านบาท คาดเกิดอานิสงส์แก่ 3 บริษัท "LH-QH-HMPRO" ด้วยกระแสข่าวดังกล่าวผลักดันให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นจากการเก็งกำไรในระยะที่ผ่านมา โดยประเมินพื้นฐาน HMPRO ยังคงแข็งแกร่ง ผู้บริหารมั่นใจยอดขายปี 56 ยังคงเติบโต 15% ตามเป้า ส่วน HMPRO มีราคา Median Consensus 16.80 บาท
• GFPT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 11.6 บาท คาดกำไรโตก้าวกระโดด 2Q-3Q56 คาดกำไร 2Q56 ที่ 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%QoQ จากที่ขาดทุน 16 ล้านบาทใน 2Q55 ส่วนใน 3Q-4Q56 คาดกำไรโตกระโดดกว่า 200 ล้านบาท/ไตรมาส จากราคาไก่และ By Products เพิ่มหลังอุปทานลดลงจากการลดการผลิตอย่างมากของสหฟาร์ม, ได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก GFN และ MCKEY เพิ่มขึ้น, มาร์จิ้นอาหารสัตว์สูงขึ้น ราคาวัตถุดิบต่ำลง ธุรกิจอาหารกุ้งกระเตื้องหลังผ่านจุดต่ำสุดวิกฤตโรคระบาด
• SIRI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5.30 บาท เปิดตัว dcondo 6 โครงการ 6 ทำเลทั่วประเทศ 3 ส.ค.ยอดขายเฉลี่ย 35% ถือว่าอยู่เกณฑ์ดี เพราะเปิดช่วงการเมืองกำลังจะร้อนแรงและบางจังหวัดฝนตกหนัก ราคาหุ้นในช่วง 2 เดือนปรับลงแรงกว่ากลุ่มเพราะปรับขึ้นโดดเด่นกว่าใครในช่วงก่อนหน้า ขณะที่กำไรปีนี้คาดโต 28% สูงกว่ากลุ่มที่โต 20% และคาดกำไรปีหน้าโต 20% สูงกว่ากลุ่มที่โต 16% รวมทั้งยังให้ dividend yield สูงสุด 7%
• CPALL(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 63 บาท คาดผลการดำเนินงานปกติ 2Q56 จะมีกำไรใกล้เคียงกับในไตรมาส 1 แต่จะเพิ่มขึ้น 12% YoY จากยอดขายสาขาเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 8% และการขยายสาขาเพิ่ม 150 สาขา ประกอบกับคาดว่าร้านเซเว่นฯรักษา Gross margin ดีต่อเนื่อง 26% กำไรสุทธิอาจออกมาสูงกว่าที่ประเมินอย่าง Conservative ไว้ที่ 2.42 พันล้านบาท ลดลง 24% QoQ และ 7% YoY หากผลกระทบจากค่าใช้จ่าย M&A และขาดทุนค่าเงินบาทจากดีลการซื้อ MAKRO ต่ำกว่าที่เราคาดไว้เดิมที่ 500 ล้านบาท
• DELTA(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 51 บาท คาดกำไรไตรมาส 2 ราว 1,372 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 53% YoY และ 13% QoQ หลักๆ จากขายเงินลงทุนบริษัทย่อย(เดลต้า กรีนเทค)ราว 150 ล้านบาท และยอดขาย Data Center ขยายตัวต่อเนื่อง ครึ่งปีหลังคาดยอดขายมีโมเมนตัมดี ไตรมาส 3 เข้า High Season คาดกำไรทั้งปี 4.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY