การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดทำการในแดนลบก่อนดีดตัวขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกที่จุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,435.99 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,409.87 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวผันผวน หลังจากเปิดทำการร่วงไปกว่า 10 จุดและแกว่งตัวผันผวน ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาจนปิดบวกกว่า 10 จุดช่วงท้ายภาคเช้าสวนทางตลาดภูมิภาค ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายยังไม่มากนัก
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ดัชนีที่ปรับขึ้นมาท้ายภาคเช้าจากแรงซื้อของนักลงทุนรายใหญ่หลังจากเห็นว่าการชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์น่าเป็นห่วง โดยที่สวนลุมพินีมีผู้เข้าร่วมชุมนุมราว 500-1 พันคนเท่านั้น แต่ยังรอดูวันที่ 7 ส.ค.หากไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงก็เชื่อว่าตลาดจะรีบาวด์กลับขึ้นมาได้อีก
ด้านนายธนเดช กล่าวต่อว่า ปัจจัยต่อการซื้อขายในวันนี้ยังคงเป็นเรื่องสถานการณ์การเมืองในประเทศสัปดาห์นี้ที่ยังคาดเดาได้ยาก ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนั้น การที่สหรัฐฯได้ประกาศตัวเลขด้านเศรษฐกิจออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ นักลงทุนจึงมีความกังวลว่าเฟดอาจจะชะลอมาตรการ QE ในเร็วๆนี้
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอาจจะแกว่งตัวได้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอดูว่ารัฐบาลจะยังคงยืนยันนำเอา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯหรือจะถอนออกไป แต่หากสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.56) ไม่มีความรุนแรง เชื่อว่าแนวรับ 1,400 จุดยังสามารถยืนอยู่ได้ในเชิงจิตวิทยา
พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,450 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 865.48 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท ลดลง 0.05 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 804.84 ล้านบาท ปิดที่ 285.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 754.08 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 718.10 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 559.08 ล้านบาท ปิดที่ 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท