"ไม่กังวลเรื่องการเมืองที่มีความวุ่นวาย ซึ่งเราก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงวันซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี เนื่องจากประเทศไทยมีบทเรียนเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองมานานแล้ว ตอนนี้ก็ให้เวลาทุกคนกลับไปทบทวน เรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยไม่มีฝ่ายใดชนะหรือแพ้" นายตันกล่าว
ส่วนการขยายกำลังการผลิตเฟส 2 ของอิชิตัน จะใช้เงินลงทุน 2.5 พันล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มชาเขียว อีกปีละ 400 ล้านขวด/ปี ทำให้กำลังการผลิตรวมมีทั้งหมด 1,000 ล้านขวด/ปี เพื่อรองรับการส่งออกเครื่องดื่มชาเขียวของบริษัทไปในประเทศอาเซียนในปี 57
ทั้งนี้ หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์บริษัทเตรียมส่งออกเครื่องดื่มในอาเซียน ซึ่งขณะนี้ศึกษาว่าจะเริ่มส่งไปประเทศใดก่อน โดยบริษัทได้มีการเจรจาพันธมิตรในเวียดนามแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินในเดือน มี.ค.57 ว่าจะส่งออกประเทศใดเป็นประเทศแรก
ส่วนยอดขายของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 6 พันล้านบาท มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 4.5 พันล้านบาท โดยมาจากแคมเปญการตลาดในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ยอดขายเครื่องดื่มชาเขียวเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท/เดือนตั้งแต่ม.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่มียอดขายประมาณ 200 ล้านบาท/เดือน ประกอบกับในช่วงครึ่งปีแรกเป็นช่วงไฮซีซั่นที่เป็นหน้าร้อนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และผลตอบรับที่ดีจากน้ำจับเลี้ยง"เย็น เย็น"คาดว่ายอดขายน้ำจับเลี้ยง"เย็น เย็น"จะเกินเป้าที่ตั้งไว้ 700 ล้านบาท เป็น 1,400 ล้านบาทในปีนี้
ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของอิชิตันอยู่ที่ 44% ณ วันนี้ ถือว่าครองอันดับหนึ่งอยู่ โดยมี"โออิชิ" ครองส่วนแบ่งอันดับสองที่ 37% และ"เพียวริคุ" มีส่วนแบ่งตลาด 14%
"ปัจจุบันบริษัทยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งโดยมีมาร์เก็ตแชร์ที่ 44% ส่วนโออิชิก็มี 37% แต่เชื่อว่าในปีนี้ โออิชิ จะสามารถจะกลับมาชนะเราได้ เพราะว่าเขามีศักยภาพในการทำการตลาดที่ดี ซึ่งสามารถกระตุ้นให้มีส่วนแบ่งการตลาดให้กลับมาเป็นอันดับหนึ่ง เราถือว่าเราครองอันดับหนึ่งแค่ชั่วคราว แต่หลังจากเราเข้าตลาดแล้ว เราก็จะไม่มีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก เนื่องจากเราต้องรักษาต้นทุน และทำให้บริษัทมีกำไร ซึ่งจะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นที่ดี ถ้าเราไปแข่งขันเยอะก็จะไม่เป็นผลดีกับเรา" นายตัน กล่าว
นายตัน กล่าวถึงสัญญาณเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คาดว่าจะไม่กระทบกับกำลังซื้อสินค้าเกี่ยวกับบริโภค ตลาดชาเขียวในประเทศไทยมีฐานลูกค้าใหญ่ขึ้น โดยในปีนี้ตลาดชาเขียวมีมูลค่ารวม 1.65 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีมูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีผู้ผลิตเครื่องดื่มชาเขียวมากขึ้น และมีขนาดบรรจุหลายขนาด ทำให้การเติบโตของตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดชาเขียวของไทยยังเล็กกว่าตลาดชาเชียวในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม มาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งหากเปิดประชาคมเศรษฐกิจ(AEC) คาดว่าหลายประเทศ เช่น จีน เวียดนาม มาเลเซีย จะเข้ามาบุกตลาดชาเขียวในไทยมากขึ้น ทำให้บริษัทผู้ผลิตชาเขียวในประเทศต้องมีการปรับตัวและเพิ่มศักยภาพในการผลิต ให้ทัดเทียมประเทศคู่แข่งให้ได้
ล่าสุด อิชิตัน ได้จัดแคมเปญ "อิชิตัน ทัวร์ยกแก๊งฮอกไกโด ตอน รหัสช้อปเปรี้ยง 1 ล้านบาท" ส่งท้ายปี ก่อนปิดตัวเลขผลประกอบการปี 56 เพื่อนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยอัดงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท พาผู้โชคดีทัวร์เที่ยวฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 30 รางวัล แก๊งละ 4 คน และแจกทองมูลค่า 1 แสนบาท จำนวน 600 รางวัล เริ่มแคมเปญ 15 ส.ค. 56 - 22 พ.ย. 56