บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯกำหนด Fair Value หุ้น PACE ด้วยวิธี Residual Income เพื่อสะท้อนกระแสเงินสดรับจากโครงการต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต จะได้มูลค่าเหมาะสมสิ้นปี 2556 เท่ากับ 5.2 บาทต่อหุ้น
เนื่องจากปี 2556 PACE ไม่มีโครงการใหม่สร้างเสร็จพร้อมโอนฯ ทำให้แนวโน้มรายได้อยู่ในระดับต่ำ และไม่เพียงพอต่อรายจ่ายที่เกิดขึ้น จึงคาดว่าจะมีผลขาดทุนสุทธิ 165 ล้านบาท ก่อนจะพลิกกลับมามีกำไร 267 ล้านบาทในปี 2557 เพราะจะเริ่มรับรู้รายได้จากการขายโครงการที่หัวหิน และค่าเช่า Retail Cube ที่จะเข้ามาเต็มปี ขณะที่ปี 2558 คาดว่าจะเห็นกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 2 พันล้านบาท จากการเริ่มส่งมอบคอนโดขนาดใหญ่ ทั้ง The Ritz-Carlton Residences Bangkok และที่หลังสวน
นอกจากนั้น ยังคาดว่ากำไรจะยังทรงตัวระดับสูงตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป จากรายได้ของธุรกิจ Retail และโรงแรม รวมถึงการเปิดโครงการเพื่อขายใหม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ Norm EPS ปี 2556-58 ซึ่งรวมผลกระทบจากการเพิ่มทุนแล้วเท่ากับ -0.09 บาท, 0.13 บาท และ 0.99 บาท ตามลำดับ
PACE ผู้พัฒนาอสังหาริทรัพย์ระดับ Super High-End บนทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยคุณภาพมาตรฐาน Zero Defect โดยปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมระหว่างพัฒนา 3 โครงการ คือ ไฟคัส เลน, ศาลาแดง และล่าสุดคือ มหานคร ซึ่งเป็นโครงการ Mixed Use บนอาคารสูง 77 ชั้น สูง 314 เมตร ซึ่งสูงที่สุดในประเทศไทย โดยภายในประกอบด้วยโรงแรม, ศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม และจุดชมวิว ที่จะสร้างรายได้ให้บริษัทในระยะยาว
สำหรับสถานะสิ้นปี 2555 PACE มีสินค้ารอขาย 6.3 พันล้านบาท และ Backlog 6.4 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของคอนโดฯ The Ritz-Carlton Residences Bangkok (ส่วนหนึ่งของโครงการมหานคร) ที่มีกำหนดโอนฯในปี 2558 นอกจากนั้นบริษัทมีแผนเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่า 8.7 พันล้านบาท เป็นวิลล่าโครงการมหาสมุทรที่หัวหิน และคอนโดฯที่หลังสวน เพื่อให้บริษัทมีรายได้ต่อเนื่อง