สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB196A (รุ่นอายุ 3.8 ปี, 1.8 ปี และ 5.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,260 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF163A) มูลค่า 134.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT13OA) มูลค่า 129.9 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC18NA) มูลค่า 51.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 314.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55.3% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 10,025 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,451 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -813 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.48% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.56% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพันธบัตรรัฐบาล Benchmark รุ่นอายุ 3 ปี ที่จะประมูลวันนี้ โดยนักลงทุนยังคงกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะชะลอการใช้มาตรการ QE ภายในสิ้นปีนี้ และบางส่วนยังคงกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองภายในประเทศ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 813 ล้านบาท