นอกจากนี้หลังจากที่ได้มีการร่วมมือกันคาดว่าจะสามารถทำรายได้ให้กับ อสมท.ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงจะมีกำไรเข้ามาอีกด้วย หลังจากที่ได้มีการติดต่อกับผู้สนับสนุนไว้ล่วงหน้า อย่าง เครือปตท.(PTT) บมจ..แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส, บมจ. ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ (BAT-3K) และโอสถสภา
"หลังจากที่เราได้ร่วมมือกับ CTH แล้วในครึ่งปีหลังเราก็จะมีรายได้และกำไรเข้ามา ซึ่งการร่วมมือของเราจะอยู่ในรูปแบบของการแบ่งรายได้กัน แต่ปัจุบันเราไม่สามารถคำนวนเป็นรายได้ที่ชัดเจนได้ เพราะเราก็ยังมีการเปิดรับสปอร์นเซอร์ที่มีความต้องการซื้อโฆษณาในช่วงถ่ายทอดฟุตบอล ทั้งนี้เรายังมีในช่วงเวลาการทำไฮไลท์สำคัญ และช่วงที่มีการวิเคราะห์บอล เราจึงยังไม่สามารถคำนวนออกมาเป็นตัวเลข ที่ชัดเจนได้" นายอเนก กล่าว
ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทคงเป้าหมายรายได้ที่ 6.5 พันล้านบาท แม้ว่ากำไรอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลังจะมีรายได้จากโฆษณาเข้ามามากขึ้น หลังจากที่มีการปรับผังรายการ รวมถึงมีการปรับขึ้นค่าโฆษณา และยังมีแผนที่จะนำรายการที่เป็นซีซั่น เข้ามาถ่ายทอด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อรวมลงทุนกับบริษัทในประเทศสิงค์โปร และทางอสมท.ยังมุ่งเน้นที่จะหาพันธมิตร เพื่อหาคอนเท้นท์ใหม่ๆและรายการที่น่าสนใจมานำเสนอ