อนึ่ง บมจ.ซีออยล์ จะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI) และ คาดว่าอย่างเร็วน่าจะเสนอขาย IPO ได้ในเดือน ส.ค.และอย่างช้าก็จะพยายามไม่ให้เกินไตรมาส 3/56
น.ส. พัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) หรือ KGI ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ บมจ. ซีออยล์ เปิดเผยว่า ซีออยล์มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่สดใสและถือเป็นหนึ่งในผู้นำการจัดจำหน่ายน้ำมันทางทะเลที่มีชื่อเสียง โดยเป็นที่ยอมรับทั้งจากลูกค้าและคู่ค้าจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ การให้บริการที่ดี และคุณภาพของสินค้าซึ่งเชื่อถือได้
อีกทั้งการเติบโตของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตทางธุรกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 53-55 อยู่ที่ 31.50% และกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีอัตราเฉลี่ย 50.86% ประกอบกับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) สิ้นสุดไตรมาส 1/56 อยู่ที่ 1.07 เท่า จากปี 2553 ซึ่งมี D/E อยู่ที่ 1.57 เท่า และคาดว่าสัดส่วนดังกล่าวจะมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยหลังจากการเสนอขายหุ้น รวมถึงอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) สิ้นสุดไตรมาส 1/56 อยู่ในเกณฑ์ดีสูงถึง 32.21%
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์จากบล. เคจีไอ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประเมินราคาเป้าหมาย 4.90 บาท โดยมองว่าบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามปริมาณความต้องการใช้น้ำมันสำหรับเรือบรรทุกน้ำมัน เรือบริวารแท่นขุดเจาะและเรือที่เกี่ยวข้องประเภทอื่นๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นทางทะเล ประกอบการขยายตลาดการจำหน่ายน้ำมันไปยังผู้ค้าน้ำมันที่จะนำน้ำมันไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต กอปรกับการที่บริษัทมีการกำหนดราคาขายจากการบวกกำไรส่วนเพิ่มจากต้นทุน ทำให้มีกำไรแน่นอนทุกลิตรที่ขาย
ขณะที่บทวิเคราะห์ของบล. โนมูระ พัฒนสิน ได้ประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ 4.84 บาท เนื่องจาก SEAOIL มีจุดเด่นในการเป็นคู่ค้ากับบริษัทน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถจัดหาน้ำมันที่มีคุณภาพได้ในราคาต้นทุนต่ำ ในขณะที่บริษัทไม่จำเป็นต้องมีการเก็บน้ำมันสำรองไว้ภายในบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจจำหน่ายน้ำมันและเชื้อเพลิงทางทะเลจากสัมปทานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเลของภาครัฐที่คาดว่าน่าจะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้แก่ธุรกิจจัดหาวัตถุดิบ และให้บริการอื่น ๆ (catering service และsupply management) แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเล และแท่นขุดเจาะในทะเล ของบริษัทด้วย
ด้านบล. ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ 4.80 บาท โดยการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากคาดว่า ผลการดำเนินงานส่วนใหญ่อิงอยู่กับการเติบโตของธุรกิจพลังงาน และมองว่าในระยะยาวอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานของซีออยล์ จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มพลังงาน