(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ทรงตัวยังติดตามการเมือง-รอลุ้นพ.ร.บ.กู้ 2 ล้านลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 9, 2013 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวงกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้อาจจะเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว หากดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นก็คงยังไปได้ไม่ไกลมาก ซึ่งจากนักลงทุนยังรอดูปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับเรื่องของการเมืองเป็นหลัก หลังจากสภาฯรับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวาระแรกและเข้าสู่ขั้นของการแปรญัตติ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าของการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่จะนำเข้าสู่สภาฯ

ขณะที่ปัจจัยภายนอก ยังมีความกังวลต่อการชะลอมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ไปจนกว่าจะมีการดำเนินการลดขนาดของ QE จริง หรือจนกว่ายกเลิก QE

ส่วนตลาดภูมิภาคเช้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยแกว่งตัวตอบรับตัวเลขเศษฐกิจของต่างประเทศ

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่แนวรับ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,450 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(8 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,498.32 จุด เพิ่มขึ้น 27.65 จุด(+0.18%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,697.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.57 จุด(+0.39%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,669.12 จุด เพิ่มขึ้น 15.12 จุด(+0.41%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 67.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 104.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 47.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.60 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 11.90 จุด

ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์และตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอ และตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(8 ส.ค.) ที่ 1,447.16 จุด เพิ่มขึ้น 17.17 จุด (+1.20%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,413.23 ล้านบาท เมื่อ 8 ส.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(8 ส.ค.)ที่ 103.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.97 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(8 ส.ค.)ที่ 9.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.18/20 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค-นลท.คลายกังวลการเมือง
  • ศูนย์วิจัยทองคำ ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกร่วงต่อ รับแรงกดดันจากเฟดลดคิวอี และเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว ฉุดแรงซื้อลดลง เตือนระวังลงทุนเดือนส.ค. เหตุตลาดผันผวน ขณะเจ้าหน้าที่เฟดพร้อมหั่นคิวอี หลังว่างงานปรับดีขึ้น
  • "แบงก์ชาติ" จับตาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หลังสัญญาณค้างชำระหนี้พุ่ง เผยยอดจัดชั้นกล่าวถึงพิเศษไตรมาส 2 โตแตะ 6.8% ส่งทีมสำรวจมาตรฐานการให้สินเชื่อแบงก์ ยืนยังไม่น่าห่วง เหตุสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมน้อยแค่ 8.8% มั่นใจไม่กระทบระบบสถาบันการเงิน ขณะที่ เอ็นพีแอล ทั้งระบบทรงตัวที่ 2.2% ด้านสินเชื่อโต 12.8% มองไตรมาส 3 ชะลอเล็กน้อย แต่ยังเชื่อทั้งปีโตได้ตามเป้าแบงก์
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เผยอยู่ระหว่างการประมาณการเศรษฐกิจใหม่ จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้แค่ 4-4.5% แต่เมื่อรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 5-5.5%
  • ผู้อำนวยการอาวุโสสายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยได้มีสถาบันการเงินต่างประเทศจากเอเชียและออสเตรเลีย 5-6 ราย เข้ามาหารือเงื่อนไขการขอใบอนุญาตในการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ลูกรายใหม่ในประเทศไทย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AUCT บมจ.สหการประมูล เข้าเทรดวันนี้วันแรก ราคา IPO ที่ 2.00 บาท/หุ้น ทั้งนี้ AUCT ประกอบธุรกิจให้บริการเป็นคนกลางในการจัดการประมูลทรัพย์สิน รวมทั้งให้บริการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลโดยทรัพย์สินที่บริษัทจัดการประมูลมี 3 ประเภทคือ 1) รถยนต์มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 71-73 ของรายได้รวม 2) รถจักรยานยนต์ มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 13-15ของรายได้รวมและ 3) ทรัพย์สินประเภทอื่นมีสัดส่วนรายได้ต่ำกว่าร้อยละ 1 ของรายได้รวม
  • WAT-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. วธน แคปปิตัล(WAT)เข้าเทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 4,149,925,036 หน่วย โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.40 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 28 มิ.ย.2556 โดยมีราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.40 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2556 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 27 มิ.ย. 2559
  • BAY(ฟินันเซีย ไซรัส)ธปท.อนุมัติให้ BTMU ซื้อ BAY 25.33% จาก GE ที่ 39 บาท หลังจากนี้จะให้ก.คลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในญี่ปุ่นจัดการต่อไป คาดเสร็จสิ้นใน 3Q13 หลังจากนั้น BTMU จะทำ Tender offer จากผู้ถือหุ้นในเดือน พ.ย.-ธ.ค. ที่ราคา 39 บาทเช่นกัน และการรวมกิจการระหว่าง BAY และ BTMU สาขากรุงเทพน่าจะเกิดขึ้นต้นปี 2014
  • THCOM(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 40.50 บาท กำไรดีกว่าคาดมาก ถ้าไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน กำไรปกติ +113% Q-Q, +124% Y-Y ดีกว่าคาดมาก จากภาษีจ่ายที่ต่ำกว่าคาดมาก ส่วนกำไรก่อนภาษีดีกว่าคาดเล็กน้อย
  • DCON(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 15 บาท กำไรแข็งแกร่งเกินคาด +21% Q-Q, +45% Y-Y และทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 50 ล้านบาททั้งที่เป็น low season จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งในแผ่นพื้นคอนกรีต และเสาเข็มคอนกรีต และรับรู้รายได้มากขึ้นจากบ้านเดี่ยว เรามีแนวโน้มปรับกำไรขึ้น ปัจจุบันมี PE เพียง 10.2 เท่า
  • SEAFCO(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 9.50 บาท แม้ผลการดำเนินงานใน 2Q56 อาจไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับใน 1Q56 แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ประเมินว่าจะเห็นการรับรู้รายได้ที่ดีขึ้นจากงานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการเร่งงานทางด่วนศรีรัชฯ นอกจากนี้ จะได้ประโยชน์หาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทผ่านสภาฯ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับงานฐานราก และงานเสาเข็มเจาะจากทั้ง CK และ STEC มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียว และสีเหลือง
  • TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 90 บาท เบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q56 จะเติบโต +66% yoy เป็น 200 ล้านบาท และหากออกมาใกล้เคียงกับที่คาดจะส่งผลให้กำไรสุทธิ 1H56 เพิ่มขึ้น +370% yoy เป็น 600 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 57% ของประมาณการกำไรทั้งปี แนวโน้มผลประกอบการ 3Q56 คาดจะเติบโต qoq เนื่องจาก 1.รายได้จากการจำหน่ายยางมะตอยในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่อง จากการซ่อมแซมถนน เนื่องจากเข้าสู่หน้าฝน 2. ทิศทางเงินบาทมีความผันผวนลดลง จึงคาดว่าจะส่งผลบวกต่อการบริหารต้นทุนของ TASCO นอกจากนี้ราคาปัจจุบันมี Valuation ที่ค่อนข้างต่ำ
  • WHA(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้า 64 บาท จะได้แรงหนุนบวกจากรายได้ส่วนเพิ่มประเด็นโซลาร์รูฟ เนื่องจาก
คลังสินค้าของ WHA มีพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางเมตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ