นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากการรวมกิจการระหว่าง ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ(BTMU) กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY)เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิศทางกำไรของ BAY จะมีการเติบโตมากขึ้นกว่าที่ประมาณการไว้ในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิโต 16% yoy ซึ่งจะเห็นผลที่ชัดเจนในปี 2557
ทั้งนี้ เมื่อมีการควบรวมกิจการระหว่าง BTMU และ BAY จะทำให้ขนาดพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นอีก 20% รวมเป็น 1.1 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันที่ BTMU มีพอร์ทสินเชื่ออยู่ราว 2 แสนล้านบาท และ BAY มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ราว 9 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ คาดว่าราคาหุ้นของ BAY จะวิ่งอยู่ใกล้เคียงกับราคาที่ทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ ที่ 39 บาท/หุ้น ซึ่งมีแผนการทำในเดือนพฤศจิกายน 2556 พร้อมแนะ"ถือ"หุ้น BAY โดยให้ราคาเป้าหมาย 39 บาท/หุ้น
แม้กำไรในไตรมาส 2/56 อยู่ที่ราว 3,000 ล้านบาท หรือลดลง 18% yoy และ 25% QoQ เนื่องจากธนาคารตั้งกันสำรองพิเศษเพิ่มเป็น 2.55 พันล้านบาท เพื่อรองรับความผันผวนของวงจรเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปี 56 คงจะทรงตัวที่ 4.25% เนื่องจากธนาคารกำลังขยายสินเชื่อ SME และสินเชื่อ Corporate ซึ่งสินเชื่อทั้ง 2 ชนิดนี้ให้อัตราผลตอบแทนต่ำกว่าสินเชื่อรายย่อยมาก